47 1

เทคนิคการเย็บปิดแผลผ่าตัด

เทคนิคการเย็บปิดแผลผ่าตัดสามารถกระทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเย็บด้วยไหมละลาย ไหมดำการใช้ลวดเย็บ staples หรือการใช้กาวผิวหนัง skin glue การดูแลแผลผ่าตัดถือเป็นส่วนสำคัญในการรักษาทางศัลยกรรม จากการศึกษาวิจัยพบว่าโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อที่แผลผ่าตัดพบได้ประมาณร้อยละ0.5-2 ของการผ่าตัดทั้งหมด ขึ้นกับปัจจัยหลายประการ และอาจก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้มาก บางครั้งอาจเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต การติดเชื้อของแผลผ่าตัดเรียกว่า surgical wound infection ปัจจุบันการป้องกันแผลผ่าตัดจากการติดเชื้อกระทำได้ดียิ่งขึ้นสามารถลดอุบัติการณ์ลงได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การผ่าตัดรักษาประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิมการเย็บปิดแผลผ่าตัดด้วยการใช้ไหมละลาย absorbable-suture มักเย็บที่ชั้นใต้ผิวหนัง เมื่อแผลสมานเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็ไม่ต้องตัดไหม ปรากฏร่องรอยบนผิวหนังเพียงเล็กน้อยหรือเห็นเป็นเส้นจางๆ หลังเย็บแผลผ่าตัดนิยมปิดด้วย steri-strips ซึ่งเป็นวัสดุปิดแผลชนิดพิเศษ ช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น ส่วนการเย็บแผลผ่าตัดที่ผิวหนังด้วยไหมดำมีข้อดีคือทำให้ปากแผลกระชับแน่นได้ดีกว่าการเย็บด้วยไหมละลาย โดยทั่วไปสามารถตัดไหมได้ภายใน 7-10 วัน หากแผลปิดสนิทและไม่มีลักษณะของการติดเชื้อเกิดขึ้นการหายของแผลผ่าตัด เรียกว่า wound healing ถือเป็นหลักสำคัญทางศัลยกรรมประการหนึ่งปัจจัยที่มีผลเกี่ยวข้องกับการหายของแผลเป็นสิ่งที่แพทย์นำมาพิจารณาในการดูแลรักษาผู้ป่วยหลังผ่าตัดเสมอรวมทั้งตรวจประเมินลักษณะการเปลี่ยนแปลงของแผลผ่าตัดทุกวัน บางครั้งอาจพิจารณาใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัดตามความเหมาะสมและข้อบ่งชี้ทางศัลยกรรมแผลผ่าตัดวันแรกๆจะมีสีแดงเรื่อๆและบวมได้บ้างเล็กน้อยเมื่อคลำแผลจะพบว่าแข็งและหนากว่าผิวหนังปกติ ในการตรวจแผลผ่าตัดด้วยการคลำต้องใส่ถุงมือที่ปราศจากเชื้อ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยตรงเนื่องจากเป็นการนำเชื้อโรคเข้าไปสู่บริเวณปากแผล บางครั้งการบีบบริเวณโดยรอบของปากแผลช่วยให้สามารถประเมินลักษณะของแผลผ่าตัดได้เป็นอย่างดีการดูแลแผลผ่าตัดต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาดเป็นหลัก ไม่สัมผัสโดยตรง ห้ามแคะ แกะ เกาแผลผ่าตัดเป็นอันขาด และหมั่นทำแผลอยู่เสมอ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำแผล dressings ประกอบด้วยผ้า gauze และ tape ปิดบนผิวหนัง รวมทั้งการใช้ยาฆ่าเชื้อบางชนิดเรียกว่า antiseptics ตามความเหมาะสม …

เทคนิคการเย็บปิดแผลผ่าตัด Read More »

46 1

เทคโนโลยีการลดปวดประเภทต่างๆ

สำหรับผู้ป่วยที่มาคลินิกระงับปวด (Pain Clinic)มักจะมาด้วยเรื่อง หลักๆ ก็คือปวด ชา หรืออ่อนแรง ของแขน และขาซึ่งเกี่ยวโยงกับต้นเหตุมาจากไขสันหลัง กระดูกสันหลัง ผู้ป่วยประมาณ 90% จะได้รับการรักษาแบบ Non-Surgical หมายความว่าไม่ต้องผ่าตัด มีผู้ป่วยเพียง 10% ที่จะต้องได้รับการแก้ไข คนไข้ที่ไม่ต้องผ่าตัดจะมีการรักษาตั้งแต่การให้ยา การทำกายภาพ การทำ procedure หมายถึงการฉีดยาเข้าไปแก้ไขตรงตำแหน่งที่มีปัญหาอยู่ การทำ Pain procedure ที่หมายถึงนี้ ในโรงพยาบาลกรุงเทพมีทำได้หลายแบบ ที่ทำกันอยู่เป็นประจำ คือ 1. Caudal Steroid หมายถึง การฉีด steroid เข้าไปในช่องไขสันหลังด้านหลัง เพื่อแก้อาการปวดที่ไปที่ขาหรือสะโพก 2. Celiac Plexus Block จะใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง แล้วปวดหลังอย่างมาก เนื่องจากตัวมะเร็งกดทับเส้นประสาท การฉีดยาเข้าไปเพื่อทำลายเส้นประสาทชนิดนี้ทำให้ผู้ป่วยหายได้อย่างถาวร หรือมากกว่า 1 ปีได้ใช้ในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย 3. Lumbar Sympathetic Block ใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดขาจากการผ่าตัดหรือการได้รับการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงขาหรือแม้แต่ผู้ป่วยที่ถูกตัดแขน ตัดขา …

เทคโนโลยีการลดปวดประเภทต่างๆ Read More »

45 1

เต้านมปกติ

เต้านมในสตรีเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญในการสร้างน้ำนมสำหรับเลี้ยงทารก น้ำนมจากเต้านมของมารดาที่ให้แก่ทารกของตัวเองจะมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าน้ำ นมจากแหล่งอื่นๆ ในด้านของสารที่ให้ภูมิคุ้มกันต่อโรค ความสะอาด และความประหยัด เต้านมแต่ละข้างจะประกอบไปด้วยหน่วย ย่อยๆ 15-20 หน่วย เป็นเหมือนพูเล็กๆ เรียงตัวกันเป็นวง กระจายออกจากศูนย์กลาง แต่ละพูจะมีหน่วยขนาดเล็กๆ ย่อยลงไปอีกเป็นกระเปาะสำหรับสร้างน้ำนม โดยแต่ละหน่วยดังกล่าวมีท่อเชื่อมโยงถึงกัน และท่อจะเปิดรวมที่บริเวณหัวนม ในระหว่างหน่วยต่างๆ และท่อน้ำนมดังกล่าวจะมีไขมันแทรกอยู่โดยทั่วไปทั้งหมด ด้านหลังของเต้านมจะเป็นกล้ามเนื้อซึ่งคลุมกระดูกซี่โครงเอาไว้ และกล้ามเนื้อเหล่านี้ถือว่าไม่ใช่ส่วนของเต้านม ลักษณะของเต้านมปกติ เนื่องจากเต้านมเป็นอวัยวะที่เต็มไปด้วยต่อมและเนื้อเยื่อไขมันมากมายระหว่างชั้น ของผิวหนัง และผนังช่องอก ซึ่งเนื้อเยื่อไขมันนี่เองที่เป็นตัวกำหนดขนาด และรูปร่างของทรวงอก ขณะที่มีบุตร ต่อมดังกล่าวจะผลิตน้ำนมส่งผ่านท่อน้ำนมไปยังหัวนม ดังนั้นช่วงที่ให้นมลูก ต่อมน้ำนม และท่อต่างๆ จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เต้านมยังประกอบด้วยเส้นเลือด และน้ำเหลือง โดยน้ำเหลืองจะนำของเสียที่เต้านมขับออกไปยังเนื้อเยื่อขนาดเล็กเท่าเม็ด ถั่วที่เรียกว่า ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ซึ่งต่อมน้ำเหลืองจะทำหน้าที่กรอง และทำความสะอาดน้ำเหลือง อิทธิพลของฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของเต้านมในระหว่างเดือนอาจเกิดขึ้นได้ เพราะมีระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับการมีประจำเดือน ซึ่งในช่วงมีประจำเดือนเต้านมอาจตึงหรือเจ็บ ดัง นั้นในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง แพทย์จึงแนะนำให้ตรวจหลังจากประจำเดือนหมดประมาณ 1 สัปดาห์ และเนื่องจากการคลำหรือตรวจด้วยตนเองจะต้องอาศัยความรู้สึก หรือประสบการณ์ ท่านที่เริ่มเข้าสู่วัยสาว จึงต้องฝึกตรวจเต้านมที่ปกติด้วยตนเองให้ชำนาญ เวลามีก้อนผิดปกติจะได้คลำพบได้โดยง่าย ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมที่สามารถแก้ไขได้ …

เต้านมปกติ Read More »

44 1

เตรียมลูกเข้าโรงเรียนอนุบาลอย่างไร

เดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็น ช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนที่มีลูกอายุประมาณ 3 ขวบ จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ตื่นเต้นบางครั้งก็เครียดด้วย นั่นคือการเข้าโรงเรียนอนุบาลวันแรกของลูก การ ไปโรงเรียนของลูกนั้นเป็นพัฒนาการส่วนหนึ่งของเด็กครับ เพราะโรงเรียนเป็นสถานที่ที่่แปลกใหม่สำหรับเด็ก ที่โรงเรียนเด็กจะได้เรียนรู้วิชาการ ฝึกการเขียนอ่านได้เล่น และจะได้ฝึกการใช้์ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมด้วย และที่สำคัญคือเด็กจะต้องแยกจากพ่อแม่และเรียนรู้การเข้ากลุ่มเพื่อนที่ โรงเรียน ดังนั้นถ้าไม่เตรียมตัวให้ดีการเข้าโรงเรียนอนุบาลของลูกก็อาจเป็นความ เครียดของทั้งพ่อแม่ และเด็กได้ ความวิตกกังวลในการแยกจากพ่อแม่ (separation anxiety) เป็นพัฒนาการที่สำคัญอย่างหนึ่งของเด็ก ความวิตกกังวลในการแยกจากพ่อแม่นี้จะเริ่มเกิดมีเมื่อเด็กอายุ 6-8 เดือน และ จะมากขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างที่เราเห็นบ่อยๆ เช่น พอลูกอายุประมาณ 1 ขวบครึ่ง ถึง 2 ขวบ เวลาคุณพ่อคุณแม่เข้าห้องน้ำ เขาก็จะร้องไห้มาเคาะ ประตูเรียก พ่อแม่จะไปทำงานก็ร้องตาม ตรงนี้ก็คือความวิตกกังวลในการแยกจากพ่อแม่ของเด็กซึ่งถือว่าปกติ โดยพัฒนาการนี้จะลดลงมากๆ เมื่อเด็กอายุ 3 ปี ซึ่งตรงกับช่วงเวลาเข้าโรงเรียนอนุบาลของเด็กพอดี ดังนั้นวัยนี้จึงเหมาะที่จะเริ่มเข้าโรงเรียน พบว่าถ้าพ่อแม่เองก็่รู้สึกวิตกกังวลในการต้องแยกจากลูก รู้สึกกลัว ไม่มั่นใจ หรือรู้สึกผิดที่ส่งลูกไปโรงเรียนก็อาจทำให้ลูกเกิดความความวิตกกังวลในการ แยกจากพ่อแม่มากขึ้นได้่เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณแม่บางคนที่ส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้าแล้ว พอเห็นลูกร้องไห้ แม่ก็น้ำตาซึม พอลูกกำลังจะเข้าชั้นเรียน …

เตรียมลูกเข้าโรงเรียนอนุบาลอย่างไร Read More »

43 1

เด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้ (Learning disorder)

คำว่า LD. ย่อมาจาก Learning disorder (ศัพท์ ทางการแพทย์) หรือ Learning disability (ศัพท์ทางการศึกษา) อาจแปลภาษาไทยได้เป็นเด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้ LD. เป็นภาวะที่เด็กมีความบกพร่องในการอ่าน เขียน โดยจะ สังเกตได้ว่าเด็กมี ความยากลำบากในการอ่าน อ่านช้า ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตว่าลูกไมค่อยยอมอ่านป้ายเวลานั่งรถไป ตาม ถนน (ผิด กับเด็กทั่วไปที่มัก สนใจว่าป้าย โฆษณา ร้านค้า ป้ายถนน ทางด่วน เขียนว่าอะไร พยายามอ่าน และสอบถามพ่อแม่) เขียนสะกดคำ ง่ายๆ ผิดบ่อยๆ บางทีอาจสับสน ตัวเลขหรือตัวอักษรที่คล้ายกัน เขียนเป็นลักษณะกระจกเงา สะท้อน เช่น b – d , 6-9 จดหรือลอกงานการบ้านจากกระดานช้า กว่าเพื่อนๆ บางคนมี ประวัติพูดช้า ในวัยเด็ก (พูดคำแรกที่สื่อความหมายได้หลังอายุ 2 ปี) L.D. …

เด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้ (Learning disorder) Read More »

42 1

เด็กถูกล่วงเกินทางเพศ

ปัญหาเด็กถูกล่วงเกินทางเพศ เป็นปัญหาทางสังคมที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ซึ่งผู้กระทำผิดส่วนมากเป็นคนที่เด็กคุ้นเคย หรือเป็นคนในครอบครัว และเมื่อทำความผิดแล้ว บุคคลเหล่านี้ก็จะพยายามปกปิดเรื่องโดยการกดดันเด็กต่างๆ นานา บางครั้งตัวเด็กเองเกิดความอับอาย หรือรู้สึกว่าตนเองผิดจึงไม่เล่าเรื่องให้ใครทราบ คนทำผิดก็เลยย่ามใจปัญหา นี้เป็นเรื่องที่ผิดทั้งกฎหมาย และผิดศีลธรรม ก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านร่างกาย และจิตใจของเด็กอย่างรุนแรง ต่อเนื่องไปจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กเหล่านี้บางส่วนมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งก่อปัญหาลักษณะเดียวกันนี้นี้กับเด็กคนอื่นต่อไปเป็นลูกโซ่ไม่จบสิ้น ดังนั้นในฐานะพ่อแม่ หรือผู้ดูแลเด็กทุกท่าน จึงควรจะตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ และร่วมกันคิดหาวิธีในการป้องกันดีกว่าคอยแก้ปัญหาปลายเหตุ นั่นคือสอนเด็กให้รู้จักการป้องกันตัวเอง ไม่ไปไหนในที่ลับตาคนโดยลำพัง ผู้ใหญ่ควรสอนให้เด็กรู้จักความสำคัญของสรีระร่างกายตนเองและไม่ให้ใครมาแตะต้องตัวได้ง่ายๆ ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่ควรให้เวลากับลูกในการรับฟังปัญหาต่างๆ ของเขาอย่างเต็มอกเต็มใจ ด้วยท่าทีดังกล่าว จะทำให้ลูกไว้วางใจที่จะเล่าเรื่องทุกเรื่องให้ท่านฟัง โดยไม่ปิดบัง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาเด็กถูกล่วงเกินทางเพศ หรือถูกทำทารุณกรรมได้มากทีเดียว รูปแบบการล่วงเกินทางเพศต่อเด็ก การล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก เป็นเรื่องที่ผิดทั้งกฎหมาย และศีลธรรม ซึ่งมีมากขึ้นทุกวันทั้งปริมาณ และรูปแบบที่ซับซ้อน การล่วงเกินทางเพศต่อเด็กมักเกิดจากการกระทำของบุคคลใกล้ชิด ซึ่งคุ้นเคยกับเด็ก เมื่อพบว่าเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นมักจะปกปิดด้วยความอับอาย ปกป้องชื่อเสียงทั้งของเด็ก และผู้กระทำผิด ซึ่งมักเป็นคนใกล้ชิดนั้นเอง รูปแบบการล่วงเกินทางเพศต่อเด็ก มี 2 ชนิด คือ กรณีไม่รุนแรงเป็นการล่วงเกินทางเพศที่ไม่มีการสัมผัสร่างกาย เช่น การเปลือยกายหรือให้เด็กดูอวัยวะเพศ แอบดูเด็กอาบน้ำ พูดลวนลาม พูดสองแง่สองง่าม …

เด็กถูกล่วงเกินทางเพศ Read More »

41 1

เซลล์ต้นกำเนิด (stem cell) ความหวังใหม่ของวงการแพทย์

“วิทยาศาสตร์มอบความหวังให้กับเราคือ การวิจัยเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งอาจทำให้ นักวิทยาศาสตร์ได้คำตอบต่อปัญหาที่เอื้อมไม่ถึง ฉันไม่คิดว่า เราสามารถนิ่งดูดายได้ เนื่องจากยังมีอีกหลายโรคที่รอการรักษา เราได้เสียเวลามามากพอแล้ว และเราต้องไม่เสียมันไปอีก” คำกล่าวของ Nancy Reagan อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา ภริยาของประธานาธิบดี Ronald Reagan ผู้ชีวิตด้วยโรคอัลไซเมอร์ หนึ่งในโรคที่รอความหวังรักษาให้หายขาดด้วย เซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ (stem cell) การแพทย์ปัจจุบันรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว การใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาโรคต่างๆ เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างการทดลอง เพื่อให้ได้ข้อสรุปยืนยันถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัยที่ชัดเจน มีเพียงบางโรคเท่านั้นที่มีผลวิจัยทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า สามารถใช้เซลล์ต้นกำเนิดรักษาได้ผลจริง บทความนี้จะทำให้ท่านได้รู้จักเซลล์ต้นกำเนิด กันมากขึ้น รวมถึงมีโรคใดบ้างที่ใช้เซลล์ต้นกำเนิดรักษาได้ในปัจจุบัน เซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ (Stem cell) คืออะไร? เซลล์ต้นกำเนิด หรืออีกชื่อทางการแพทย์คือ สเต็มเซลล์ คือ เซลล์ที่มีคุณสมบัติในการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนตัวเองได้ (self-renew) และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง (differentiate) ให้กลายเป็นเซลล์อื่นที่ทำหน้าที่หลากหลายได้ (multiple functional cell types) เซลล์ต้นกำเนิด ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1981 …

เซลล์ต้นกำเนิด (stem cell) ความหวังใหม่ของวงการแพทย์ Read More »

image 30

เชื้อสเตร็ปโตคอคคัส ซูอิส

เชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ในหลายภูมิภาคของโลกที่มีการเลี้ยงสุกร เคย มีรายงานการพบเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสซูอิส ในสัตว์ป่าบ้างเหมือนกัน แต่พบได้น้อย ส่วนใหญ่พบในสุกรเลี้ยง สำหรับโรคติดเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส ซูอิส ในมนุษย์ พบครั้งแรกในปี 1967 เป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่ระยะหลังก็มีรายงานผู้ป่วยมากขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื้อก่อโรค เชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส ซูอิส เป็น เชื้อแบคทีเรียชนิดกรัมบวก อยู่เป็นคู่ หรือเป็นสายยาว ขนาดต่างๆกัน เชื้อนี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคในลูกสุกร พบในลูกสุกรตั้งแต่แรกเกิดจนถึงหย่านม มักตรวจพบเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น ในโพรงจมูก และต่อมทอนซิล บางครั้งจะพบเชื้อในช่องคลอดของแม่สุกร สุกรเหล่านี้จะเป็นแหล่งรังโรค ทำให้เชื้อแพร่ไปยังลูกสุกร หรือสุกรในฝูงได้เชื้อที่เป็นสาเหตุมีหลายสายพันธุ์ ในลูกหมูอายุ 7-14 วัน จะติดเชื้อชนิด serotype 1 มากที่สุด ซึ่ง ก่อให้เกิดอาการข้ออักเสบ ในลูกหมูอายุ 3-12 สัปดาห์ จะติดเชื้อชนิด serotype 2 ซึ่งก่อให้เกิดอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และในระยะหลังพบการติดเชื้อชนิด serotype 14 มากขึ้น …

เชื้อสเตร็ปโตคอคคัส ซูอิส Read More »

image 30

เชื้อสเตร็ปโตคอคคัส Group B คืออะไร

กรณีดารานักแสดงชื่อดัง ที่ติดเชื้อแบคทีเรียทำให้แขนขาไม่มีเรี่ยวแรงเป็นเวลากว่า 10 วัน ผู้ป่วยได้มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หลังจากที่เล่นสควอชเป็นเวลานาน จากนั้นอาการรุนแรงมากขึ้น มีอาการปวดตามข้อ สะโพก ข้อเท้า ข้อมือ และมีอาการแขน ขา ซีกขวาชาอ่อนแรง เมื่อส่งเลือดตรวจพบว่ามีเม็ดเลือดขาวมาก จึงทำการเพาะเชื้อ และตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ซึ่งผลการเพาะเชื้อพบว่าติดเชื้อแบคทีเรีย สเตร็ปโตคอคคัส (Streptococcus) กลุ่ม บี จึงให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษา เชื้อแบคทีเรียที่ตรวจพบนั้นเป็นเชื้อที่พบได้ทั่วไป และพบมากในหญิงตั้งครรภ์ เด็กแรกเกิด และผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว ร่างกายไม่แข็งแรง แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีรายงานว่าพบการติดเชื้อโรคนี้ในคนปกติมากขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หัวใจ และสมอง พบว่าร้อยละ 20-30ของผู้ป่วย จะหาต้นตอที่มาของเชื้อไม่ได้ เชื้อสเตร็ปโตคอคคัส Group B การติดเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส Group B พบได้ทั่วไป ผู้ที่ได้รับเชื้อบางรายไม่เกิดอาการผิดปกติแต่อย่างใด ตัวเชื้อเองพบได้ในลำไส้ ช่องคลอด กระเพาะปัสสาวะ และลำคอ ร้อยละ 25 ของหญิงตั้งครรภ์ จะพบเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส Group B …

เชื้อสเตร็ปโตคอคคัส Group B คืออะไร Read More »

40 1

จัดการอาหารให้ปลอดภัยจากเชื้อรา

เชื้อราในอาหาร เชื้อรามีอยู่ด้วยกันมากมายหลายชนิดมักจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพที่อบอุ่น และชื้น เชื้อราสามารถปนเปื้อนไปสู่อาหารได้ ทั้งในระหว่างกระบวนการผลิต การขนส่ง และการเก็บรักษา ยังมีคนอีกมากพอพบว่าอาหารขึ้นราก็เขี่ยหรือปาดเอาส่วนที่ขึ้นราออก และเก็บส่วนที่เหลือไว้บริโภคด้วยความเสียดาย อย่าทำอย่างนั้น เพราะเชื้อราบางอย่างสามารถผลิตสารพิษได้ เชื้อราใดไม่สร้างสารพิษ การปาดเอาส่วนที่เป็นเชื้อราออก และกินอาหารส่วนที่เหลืออาจเป็นอันตรายจากสารพิษของเชื้อราได้ หากเป็นเชื้อราบางชนิดมีพิษสูงมาก การได้รับในปริมาณน้อย ๆ มีผลทำให้สารพิษสะสมในร่างกายเป็นสาเหตุให้เกิดเป็นมะเร็งได้ และสารพิษจากเชื้อราบางชนิดสามารถอยู่ในอาหารได้นานโดยไม่สลายตัว บางชนิดก็ทนความร้อนได้สูง ข้อแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยให้ท่านสามารถซื้อ เตรียม หรือจัดเก็บอาหารให้ปลอดภัยจากเชื้อราได้ 1. ซื้อผักผลไม้ในปริมาณน้อย เลือกให้มีความสุกดิบคละกัน เพื่อจะได้รับประทานผลไม้ที่สดทุกวัน หากเลือกซื้อที่สุกทั้งหมด อาจรับประทานไม่ทัน ผลไม้ที่เหลือจะขึ้นราได้2. ไม่ควรซื้อผลไม้ที่มีรอยถลอกบนผิว หรือเน่าตรงขั้ว3. อย่าซื้ออาหารที่มีกลิ่นอับหรือกลิ่นหืน4. หากสงสัยว่าอาหารนั้นจะมีราขึ้น ให้ทิ้งอาหารนั้นเสียทั้งหมด อย่าทิ้งเฉพาะส่วน5. กระดาษหรือกล่องที่สัมผัสกับอาหารที่ขึ้นราให้โดยทิ้งไป เพื่อป้องกันการนำเชื้อราไปปนเปื้อนอาหารอื่น6. การกำจัดอาหารที่มีเชื้อรา ควรแน่ใจว่าเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไม่สามารถเอาไปกินได้7. อาหารพวกถั่วควรเลือกที่มีสีสม่ำเสมอไม่มีเชื้อรา เมื่อซื้อมาแล้วควรเก็บในที่แห้งและเย็น8. อุปกรณ์เครื่องครัว รวมทั้งเขียงที่ใช้ควรล้างให้สะอาด ในระหว่างเตรียมอาหารควรซับให้แห้งอยู่เสมอ ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

39 1

เชื้อรา

เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตในกลุ่มยูคาริโอท มีบทบาทสำคัญยิ่งในระบบนิเวศในฐานะผู้ย่อยสลายอินทรีย์สาร ไม่มีคลอโรฟิลล์ สังเคราะห์แสงไม่ได้ จึงจัดเป็นพวกเฮเทอโรโทรฟ โดยส่วนใหญ่ดำรงชีวิตแบบผู้ย่อยสลาย บางชนิดเป็นพาราสิต และบางชนิดอาศัยอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เชื้อราส่วนใหญ่สืบพันธุ์โดยการสร้างสปอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถเพิ่มปริมาณได้มากในเวลาอันรวดเร็ว เชื้อราที่เป็นไมคอไรซาอาศัยอยู่กับพืชบริเวณรากของพืชที่เป็นเจ้าบ้าน ไมคอไรซาบางชนิดเข้าไปอยู่ภายในเนื้อเยื่อของส่วนราก ไมคอไรซาช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิดจากดิน จึงช่วยให้พืชเจ้าบ้านเติบโตได้เร็วและแข็งแรง เชื้อราที่อยู่ร่วมกับสาหร่ายในลักษณะของไลเคนส์จะเจริญเติบโตช้า ๆ ไลเคนส์ที่พบทั่วไปมีลักษณะเป็นแผ่นแบน หรือเป็นเส้นสายห้อยลงมาจากต้นไม้ในป่าที่มีความชื้นสูง ไลเคนส์หลายชนิดเจริญบนผิวของต้นไม้และบนก้อนหิน เชื้อราแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ ราชนิดเซลล์เดียว และราสายซึ่งเป็นราชนิดหลายเซลล์ ราชนิดเซลล์เดียว เรียกว่า yeast เมื่อพูดถึงยีสต์ก็มักจะเป็นที่รู้จักกันดีโดยทั่วไป ส่วนราสายนั้นมีชื่อเรียกว่า mold ซึ่งมีทั้งชนิดที่ก่อให้เกิดโรค และชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดโรค ความสามารถในการก่อโรคของเชื้อรา พบได้ทั้งในมนุษย์ โรคของสัตว์ และโรคของพืช การศึกษาเรื่องราวของเชื้อราจึงกระทำได้อย่างกว้างขวางมาก ทั้งนี้ขึ้นกับแง่มุมที่สนใจและแนวทางที่จะนำความรู้มาประยุกต์ใช้เนื่องจากเชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถสังเคราะห์อาหารเองได้จำเป็นต้องอาศัยอาหารจากผู้อื่น เชื้อราบางชนิดอาศัยอินทรียสารจากซากพืช บางชนิดเจริญเติบโตและก่อโรคในสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่เชื้อราก่อโรคในมนุษย์ส่วนใหญ่เป็นทั้งสองแบบ ทั้งก่อให้เกิดโรคและเจริญได้โดยอาศัยอินทรียสารจากธรรมชาติ ความต้องการอาหารของเชื้อราแต่ละชนิดแตกต่างกันไป น้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งของคาร์บอนที่เชื้อราชอบ สำหรับแหล่งของไนโตรเจนมักเป็นสารประกอบแอมโมเนีย ราบางจำพวกต้องการธาตุไนโตรเจนจากกรดอะมิโน เคอราติน และพบว่าราส่วนใหญ่ไม่ต้องการวิตามินในการเจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญของราทั่วไปคืออุณหภูมิห้องหรือประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส เชื้อราก่อโรคส่วนใหญ่มักจะเจริญได้ดีในช่วงอุณหภูมิห้องจนถึง 37 องศาเซลเซียส ราบางชนิดเจริญได้ดีในที่อุณหภูมิสูง 40-50 …

เชื้อรา Read More »

38 1

เชื้อนิวโมคอคคัส

เชื้อนิวโมคอคคัส (Pneumococcus) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Streptococcus pneumoniae เป็นแบคทีเรียที่สำคัญ และเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็ก สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่มีความรุนแรง ตั้งแต่น้อยไปจนถึงระดับที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เชื้อนิวโมคอคคัสเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถพบได้ในทางเดินหายใจของคนทั่วไป โดยผู้ที่มีเชื้อนิวโมคอคคัสในร่างกาย อาจมีอาการแสดงของการเป็นโรค หรืออาจไม่เป็นโรคก็ได้ ผู้ที่มีเชื้ออาศัยอยู่โดยไม่ได้เป็นโรค เรียกว่าเป็นพาหะ ซึ่งสามารถแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นได้เช่นเดียวกัน เชื้อนิวโมคอคคัสเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดกรัมบวกมี 90 กว่าสายพันธุ์ (serotype) และ 42 serogroup โดยมีบางสายพันธุ์เท่านั้นที่เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อในมนุษย์ โดยทั่วไปพบเชื้อนี้ได้ในทางเดินหายใจส่วนต้น โพรงจมูก และคอหอย เชื้อนิวโมคอคคัสสามารถแบ่งตัวได้ดีในปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบ และแพร่กระจายเข้ากระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ หรือกระจายเข้าสู่เนื้อเยื่อรอบสมอง และไขสันหลังทำให้เกิดอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โดยผู้ที่มีเชื้อในลำคอจะเป็นพาหะแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้ทางละอองเสมหะหรือน้ำมูก ในเด็กไทยปกติพบเชื้อนิวโมคอคคัสในทางเดินหายใจส่วนต้นประมาณร้อยละ 35-40 โดยพบมากที่สุดในเด็กทารกและเด็กเล็กในช่วงอายุ 2 – 3 ปี ส่วนในผู้ใหญ่พบเชื้อในทางเดินหายใจส่วนต้นน้อยกว่าในเด็กมาก โดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 4 แหล่งที่พบเชื้อส่วนใหญ่จะพบในที่ที่มีผู้คนอยู่แออัด เช่น ชั้นเรียน ห้องทำงาน สถานรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน โรงแรม หอพัก กองทหาร ค่ายผู้อพยพ คุก …

เชื้อนิวโมคอคคัส Read More »

37 1

เชื้อไวรัสในค้างคาว

เชื้อไวรัสในค้างคาวพบไวรัสมากกว่า 60 ชนิดจากค้างคาวซึ่งก่อให้เกิดโรคในคน เช่น ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies),ไวรัสอีโบล่า (Ebola),ไวรัสซาร์ส (SARS), ไวรัสนิปาห์ เอ่ยชื่อ “นกมีหู หนูมีปีก” คนไทยตั้งแต่เด็กจนถึงคนเฒ่าคนแก่รู้ดีว่าเป็นสมญานามของ ”ค้างคาว” สัตว์ซึ่งหากินกลางคืนชนิดหนึ่ง และเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่สามารถบินได้เหมือนนกหรือบางทีอาจจะดีกว่านกบางชนิดเสียอีก ค้างคาวมีวิวัฒนาการมาจากสัตว์จำพวกฟันแทะ เช่น หนูกระแต มีการค้นพบซากฟอสซิลค้างคาวที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุประมาณ 50 ล้านปีมาแล้วค้างคาวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยที่ส่วนมือและแขนเปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่เป็นปีก มีเนื้อเยื้อบางๆ เชื่อมระหว่างนิ้วมือ แขน ขาและลำตัว มีเส้นเลือดกระจายไปทั่วเนื้อเยื่อเพื่อหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อและระบายความร้อนจากร่างกายค้างคาวเป็นสัตว์ที่มีความลึกลับซ่อนเร้น น้อยคนนักที่จะรู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับค้างคาวอย่างดีพอ เหตุเพราะมันหากินในเวลาค่ำคืน และอาศัยอยู่ในถ้ำ ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่ามันเป็นปีศาจ ทำลายสวนผลไม้ และสกปรก ค้างคาวชนิดต่างๆ ค้างคาวในโลกนี้มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 1,000 ชนิด ในประเทศไทยมีประมาณ 100 ชนิด สามารถแบ่งค้างคาวออกเป็น 2 พวกใหญ่ๆ คือค้างคาวกินผลไม้ และค้างคาวกินแมลง 1.ค้างคาวกินผลไม้ เป็นพวกที่กินน้ำหวานดอกไม้ ละอองเกสรและผลไม้เป็นอาหาร ในประเทศไทยมีค้างคาวชนิดนี้มากกว่า 15 ชนิด เช่น ค้างคาวแม่ไก่ ค้างคาวขอบหูขาว ค้างคาวบัว …

เชื้อไวรัสในค้างคาว Read More »

37 1

เชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 คืออะไร

เอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) ประกอบไปด้วยเชื้อไวรัสทั้งหมด 68 ซีโรทัยป์ ส่วนใหญ่ก่อให้เกิดโรคในเด็กซึ่งเป็นโรคที่ไม่รุนแรง และสามารถหายได้เอง ซึ่งการก่อโรคในลักษณะนี้จะคล้ายคลึงกันสำหรับสมาชิกในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส บางครั้งพบการติดเชื้อโดยไม่ปรากฏอาการซึ่งทำให้ไม่สามารถวินิจฉัยได้ในทางปฏิบัติ ในบางกรณีการติดเชื้ออาจรุนแรงมากขึ้น เช่น ทำให้เกิดอาการผื่น อุจจาระร่วง อาการเหมือนไข้หวัด ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ที่สำคัญคือ บางครั้งอาจก่อให้เกิดโรคมากกว่าหนึ่งโรคก็ได้ อาการทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยเป็นอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง คล้ายกับโรคโปลิโอ หรือกลุ่มอาการกิแลงเบอเร่ ถ้าเชื้อลุกลามเข้าไปในเนื้อสมองจะก่อให้เกิดการอักเสบของสมอง ลักษณะเป็นโรคไข้สมองอักเสบ เชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 (EV71) เป็นเชื้อที่พบว่าก่อให้เกิดการระบาดสำคัญหลายครั้งหลายหน โดยพบครั้งแรกเมื่อปี 1969 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้น พบระบาดไปทั่วโลก ปรากฏเป็นข่าวเมื่อเกิดการระบาดในประเทศสหรัฐอเมริกา บราซิล ยุโรป ออสเตรเลีย มาเลเซีย และไต้หวัน การระบาดของ เชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 เกิดขึ้นได้สองลักษณะ อาจเกิดเป็นการระบาดเล็กน้อยที่มีเด็กป่วยไม่มากและส่วนใหญ่ไม่ทำให้เสียชีวิต อีกลักษณะหนึ่งเป็นการระบาดที่รุนแรง พบเด็กติดเชื้อเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก การระบาดที่รุนแรง พบที่ประเทศบุลกาเรีย ในปี 1975 ประเทศฮังการีในปี 1978 ประทศมาเลเซียในปี 1997 ประเทศไต้หวันในปี 1998, …

เชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 คืออะไร Read More »

36 1

เจ็นเทิลแย็ก (Gentle YAG)

Gentle YAG เป็นเลเซอร์ใหม่ล่าสุดในการรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าโดยเลเซอร์รุ่นนี้จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ หลังทำ เพราะมีความยาวคลื่นแสงเลเซอร์ที่สูงทำให้แสงเลเซอร์ลงไปสู่ผิวได้ลึกและไม่ทำให้ผิวชั้นนอกถูกทำลายโดยเลเซอร์จะส่งพลังงานความร้อนไปกระตุ้นให้เกิดการเสริมเส้นใย Collagen ใหม่ในชั้นหนังแท้ เพื่อไปทดแทน เส้นใย Collagen เก่าที่เสื่อมสลายลงตามวัย และสภาวะแวดล้อมทำให้ริ้วรอยต่างๆ ลดลง โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด ไม่มีอาการเจ็บระหว่างทำการรักษา ไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษา ไม่มีแผลเป็นและรอยด่างดำหลังการรักษาซึ่งแสงเลเซอร์ Gentle YAG ทำให้มีการปรับคืนสภาพผิวให้แต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถรักษาอะไรได้บ้าง รักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น (Wrinkle) ถอนขนถาวร (Permanent Hair Removal) รักษาเส้นเลือดขอด (Leg Vein) 1 ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 มม. ตามใบหน้า และร่างกาย รอยดำชนิดตื้น เช่น กระ วิธีการรักษา แพทย์จะฉายแสงเลเซอร์ Gentle YAG ให้ทั่วหน้าหรือบริเวณที่ต้องการรักษา โดยค่อยๆ ทำทีละส่วนจนทั่วบริเวณคนไข้จะรู้สึกว่ามีกลิ่นไหม้จากขนอ่อนบนบริเวณที่ทำการรักษาบ้าง ไม่ต้องกังวล เพราะจะทำให้บริเวณนั้นเรียบเนียนขึ้น และไม่มีรอยด่างดำแต่อย่างใดคนไข้จะรู้สึกอุ่นๆ บริเวณที่ทำการรักษาใช้เวลาในการรักษาประมาณ 10-20 นาทีเพื่อให้ผลการรักษาที่ดี ควรทำต่อเนื่อง 4-5 ครั้ง …

เจ็นเทิลแย็ก (Gentle YAG) Read More »

Scroll to Top