article_writer

80

การเสียชีวิตของนักมวย (หลังการชก)

ท่านทั้งหลายคงได้เห็นข่าวการเสียชีวิตของนักมวยชาวฟิลิปปินส์ ริโต ซิสนอริโอ ที่มาชกอุ่นเครื่องกับนักมวยไทย ฉัตรชัย กระทิงแดงยิม ในรุ่น 112 ปอนด์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 และถูกชกน็อคเอาท์ในยกที่ 4 โดยถูกหมัดชุด 3-4 หมัดติดต่อกันที่ศรีษะ และใบหน้าจนหมดสติทันที (หลับกลางอากาศ) ซึ่งต่อมารู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา และในระหว่างเดินทางกลับโรงแรมเกิดอาเจียนอย่างรุนแรงจนต้องนำส่งโรงพยาบาลทันที แพทย์ได้ตรวจพบมีเลือดคั่งในสมองจึงทำการผ่าตัดให้ทันทีและรับตัวไว้รักษาในไอซียู ซึ่งในเวลาต่อมาทราบว่านักมวยท่านนี้ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2550 สถิติการเสียชีวิตของนักมวย ผมพยายามเปิดดูหนังสือเกี่ยวกับเวชศาสตร์การกีฬาและสอบถามจากแพทย์ศัลยกรรมประสาทบางท่าน ทราบว่าไม่มีตัวเลขสถิติ การเสียชีวิตของนักมวยว่ามีมากเพียงใด รวมทั้งสถิติของนักมวยที่เลิกชกแล้ว มีอาการเมาหมัดอยู่มากน้อยเพียงใด แต่เท่าที่มีการเสนอข่าวของ นสพ.บางฉบับในช่วงที่มีข่าวการเสียชีวิตของนักมวยฟิลิปปินส์รายนี้ ทราบว่ามีนักมวยชาวไทยรายหนึ่ง คือ ดีเด่น เก่งการุณ อดีตแชมป์ PABA ชาวไทยรุ่น 108 ปอนด์ ได้เดินทางไปชกที่ฟิลิปปินส์เมื่อเดือนมีนาคม 2550 ที่ผ่านมา และกลับมาเมืองไทยมีอาการปวดศรีษะอย่างรุนแรง ซึ่งพบว่าเกิดจากมีเลือดออกในสมองและต่อมาเสียชีวิตเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2550 นอกจากนี้ยังมีข่าวการเสียชีวิตของนักชกชาวอินโดนีเซีย ชื่อ อาวิส อิวี มุลยา …

การเสียชีวิตของนักมวย (หลังการชก) Read More »

79

Cystic fibrosis (CF)

Cystic fibrosis (CF) เป็นโรคพันธุกรรมชนิดหนึ่ง ก่อให้เกิดโรคที่ปอดและระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับอ่อน ในสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยโรค cystic fibrosis ประมาณ 30,000 ราย โรคนี้ก่อให้เกิดความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุที่เรียกว่า epithelial cells ที่ต่อมเหงื่อในผิวหนัง เยื่อบุทางเดินระบบทางเดินหายใจ ตับ ตับอ่อน ทางเดินอาหาร และระบบสืบพันธุ์ โดยสร้างโปรตีนผิดปกติชื่อ CFTR (Cystic Fibrosis Transmembrane Conductance Regulator) ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมปริมาณ chloride ที่ผ่านเข้าออกเซลล์ เยื่อเมือกจึงหนาตัว เหนียว และเกาะติดแน่น เยื่อเมือกที่ทางเดินหายใจที่เหนียวหนืดทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายในปอดและทางเดินหายใจ ส่วนที่ตับอ่อน เยื่อเมือกทำให้เอ็นซัยม์ย่อยไขมันจากตับอ่อนผิดปกติ ผู้ป่วยเด็กจะอ้วนผิดปกติแม้ว่ารับประทานอาหารได้ตามปกติ ปัจจุบันพบว่ายีนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคนี้คือ CF gene อยู่บนโครโมโซมคู่ที่ 7 ผู้ป่วยได้รับยีนจากทั้งพ่อและแม่ ส่วนผู้ที่เป็นพาหะจะได้รับจากพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง ในสหรัฐอเมริกามีผู้เป็นพาหะ 12 ล้านคน การเกิดโรคนี้พบได้ 1,200 mutations ของ CF gene …

Cystic fibrosis (CF) Read More »

78

Computer vision syndrome สายตาพังจากการใช้คอมพิวเตอร์

ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ แท๊บเล็ท หรือสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือที่ทำงาน เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยประสบปัญหากับหนึ่งในอาการเหล่านี้ เช่น ปวดเมื่อยตา ตาแห้ง แสบตา เคืองตา ตาพร่ามัว โฟกัสได้ช้าลง ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดกระบอกตา ปวดศีรษะ หรือบางครั้งอาจมีอาการปวดหลัง ไหล่หรือต้นคอร่วมด้วย หากคุณเคยมีอาการเหล่านี้ร่วมกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงในแต่ละวัน อาจบ่งบอกว่าคุณน่าจะมีกลุ่มอาการที่เรียกว่า Computer vision syndrome Computer vision syndrome คือกลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โดยจะมีอาการดังกล่าวข้างต้น มีการศึกษาพบว่าประมาณ 90% ของผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน เคยประสบกับหนึ่งในกลุ่มอาการนี้ ทั้งนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ขณะเราจดจ่อกับการอ่านหนังสือหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์ เราจะกระพริบตาน้อยลงจึงทำให้เกิดอาการตาแห้งง่ายขึ้น แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม รวมทั้งการมีแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ การที่ตัวอักษรบนจอคอมพิวเตอร์ไม่เรียบคมชัดเท่าตัวพิมพ์บนหน้าหนังสือ หรือการมีความไม่นิ่งของสัญญาณในจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้เราต้องพยายามในการโฟกัสมากขึ้นจึงก่อให้เกิดอาการตาเมื่อยล้าได้ง่ายขึ้น ระยะห่างจากหน้าจอ ระดับสายตาในการมองจอคอมพิวเตอร์ หรือท่าทางในการในการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม แม้ว่ากลุ่มอาการนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อตาหรือการมองเห็น แต่มักก่อให้เกิดความไม่สบายตา และอาจเป็นปัญหารบกวนการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งวิธีง่ายๆที่จะช่วยป้องกันหรือหลีกเลี่ยง Computer vision syndrome มีดังนี้คือ 1.ปรับระดับการมองเห็นและปรับท่านั่งในการทำงานให้เหมาะสม …

Computer vision syndrome สายตาพังจากการใช้คอมพิวเตอร์ Read More »

77

อาการผิดปกติที่ควรรีบไปพบแพทย์สำหรับสตรีตั้งครรภ์

ผู้ตั้งครรภ์ มีภาระอันยิ่งใหญ่ที่จะต้อง เฝ้าระวังความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น อันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทารก รวมทั้งผู้ที่เป็นคุณแม่ครั้งแรก สภาวะผิดปกติที่พึงสังวร เมื่อเกิดขึ้นแล้วควรจะไปพบแพทย์ทันที อาทิเช่น มีเลือดออกทางช่องคลอด ปวดท้องอย่างรุนแรง มีน้ำเดิน (น้ำคร่ำไหลออกจากช่องคลอด) กระหายน้ำอย่างรุนแรงและปัสสาวะลดลงอย่างมาก มีอาการบวมตามส่วนของร่างกาย เช่นที่หน้า แขน และขา ปวดหัวอย่างรุนแรง ปัสสาวะแสบและขัด ถ้ามีไข้ตัวร้อนด้วยยิ่งเป็นอันตราย การมองเห็นแปรปรวนไป หน้ามืดเป็นลม หรือแม้แต่การท้องเสีย อาเจียน ก็ควรจะรีบไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและให้การรักษา เพราะจะส่งผลกระทบต่อทารก เท่านั้นยังไม่พอ ผู้เป็นแม่ยังต้องคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของทารกในครรภ์ด้วย โดยอาจจะสังเกตจากการเพิ่มหรือลดของน้ำหนัก การเคลื่อนไหวของทารกหรือการดิ้นลดลง ซึ่งจะเป็นดัชนีที่บ่งบอกถึงสุขภาพของทารกได้เป็นอย่างดี ถ้ามีความผิดปกติ อย่าชักช้าควรพบแพทย์ทันที ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

76

อาการปวดหู

อาการ “ปวดหู”เป็นอาการที่พบบ่อยที่นำผู้ป่วยมาหาแพทย์ ส่วนหนึ่งเกิดจากการอักเสบ เช่น การอักเสบของรูหู หรือใบหู การอักเสบของหูชั้นกลางโดยเริ่มจากไข้หวัดแล้วลามไปที่หู ซึ่งพบได้บ่อยในเด็ก ๆ อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการแคะหูหรือเช็ดหูไม่ระมัดระวังเวลามีน้ำเข้าหู เพราะนอกจากจะมีโอกาสบาดเจ็บ หรืออักเสบจากการแคะแล้ว ยังมีโอกาสนำเชื้อโรค เชื้อราเข้าไปในหูด้วยบางครั้งเราพบว่าสาเหตุของอาการปวดหู ไม่ได้มากจากโรคของหู แต่มาจากอวัยวะข้างเคียง เช่นอาจมาจากโรคของฟัน เช่นฟันผุ เหงือกอักเสบ ต่อมทอนซิลหรือคออักเสบ , ไซนัสอักเสบ บางครั้งกุมารแพทย์อาจปรึกษาแพทย์ หู คอ จมูก เพื่อตรวจเพิ่มเติมและหาสาเหตุของการปวดหูต่อไป หากไม่สามารถหาสาเหตุและรักษาเบื้องต้นแล้วอาการปวดหูไม่ดีขึ้น นพ. วรวุฒิ เจริญศิริศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพผู้ประพันธ์

75

อาการปวดหลังระดับบั้นเอว

อาการปวดหลังระดับบั้นเอว เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนไข้โรคกระดูกและข้อ ที่ไปพบแพทย์เพื่อให้การตรวจรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีน้อยคนที่จะไม่เคยมีประสพการณ์เรื่องการปวดหลังสาเหตุของอาการปวดหลังระดับบั้นเอว อาจมาจากความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วในไต ภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะหรือ อาจเกิดจากตัวกระดูกสันหลังมีการอักเสบติดเชื้อ เช่น วัณโรคกระดูกสันหลัง นอกจากนี้ปัญหาภายในช่องท้อง อาจมีการปวดร้าวมาด้านหลังได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องมีอาการของระบบนั้นๆ ร่วมด้วย เช่น ปัญหาเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ อาจมีความผิดปกติของปัสสาวะ ปัญหาภายในช่องท้องอาจมีความผิดปกติในเรื่องการรับประทานอาหาร หรือการถ่ายอุจจาระ เป็นต้น อาการปวดหลังระดับบั้นเอว ที่พบได้บ่อยๆ เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อและเอ็นบริเวณนั้น เพราะการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง เช่น ก้มลงหยิบของ การยกของหนัก การเอี้ยวหรือบิดลำตัว การไอหรือจามแรงๆ การนั่งทำงานหรือเดินทางนานๆ หลายชั่วโมง การนอนในที่นอนที่นิ่มเกินไป การนั่งที่ไม่ถูกต้อง การที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น บางท่านอาจลงพุงหรือในสตรีที่ตั้งครรภ์ รวมทั้งบางท่านมีโครงกระดูกสันหลังบริเวณบั้นเอวค่อนข้างแอ่นมาก มีกล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง สาเหตุต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดอาการปวดหลังระดับบั้นเอวได้ทั้งสิ้นสำหรับ ท่านที่มีอาการปวดหลังระดับบั้นเอว และมีอาการปวดร้าวจากหลังลงไปที่สะโพก หรือขา ตลอดจนถึงน่องหรือปลายเท้า อาจต้องคิดถึงโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาทการรักษาอาการปวดหลังระดับบั้นเอว ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย การได้พักผ่อนของกล้ามเนื้อและกระดูกสันหลัง การใช้ประคบเย็นหรือประคบร้อน การรับประทานยา หรือการทำกายภาพบำบัดถ้าอาการไม่ดีขึ้น และที่สำคัญคือการใช้หลังอย่างถูกต้อง …

อาการปวดหลังระดับบั้นเอว Read More »

74

อาการปวดหลังเฉียบพลัน

เป็นอาการปวดหลังที่สาเหตุมักเกิดจากกล้ามเนื้อหลังมีอาการเครียดตึงอย่างรุนแรงเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์ทุกคนจะต้องเคยมีประสบการณ์เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อหลังเฉียบพลันเกิดขึ้นเชื่อกันว่าเกิดจากการที่กล้ามเนื้อมีการอ่อนล้าและเมื่อต้องพบกับกิจวัตรประจำวัน ซึ่งหักโหมเกินกว่าที่กล้ามเนื้อหลังรองรับได้กล้ามเนื้อหลังนั้นจะเกิดการเครียดตึงขึ้นในกรณีที่มีอาการรุนแรงอาการอาจหมายถึง อาการที่มีกล้ามเนื้อหลังบาดเจ็บ (Back Muscle Strain) หรือมีการฉีกขาดภายในของกล้ามเนื้อหลังเกิดขึ้นซึ่งอาการปวดอาจจะมีได้ตั้งแต่เล็กๆ น้อยๆเพียงแต่ทานยาแก้ปวดก็สามารถหายได้ จนถึงอาการปวดที่มีลักษณะรุนแรงจนถึงขั้นไม่สามารถลุกขึ้นนั่งได้อย่างไรก็ตามไม่ว่าการปวดจะรุนแรงมากจนถึงขั้นเดินไม่ได้ก็ตาม เป็นที่ยอมรับว่าการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อหลังเฉียบพลันนี้สามารถรักษาได้ด้วยเทคนิคที่ไม่จำเป็นจะต้องผ่าตัด หรือ Non-surgical Treatment ได้แก่ การนอนพักการรับประทานยาแก้ปวด การทำกายภาพบำบัดซึ่งจะมักทำให้ผู้ป่วยหายได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 5-7 วันอย่างไรก็ตามในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลันนี้มีผู้ป่วยอยู่จำนวนหนึ่งที่ไม่หายสนิทและกลับไปมีอาการปวดกล้ามเนื้อหลังเรื้อรังในอนาคต นอกจากปัญหาของกล้ามเนื้อที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังเฉียบพลันได้แล้ว การฉีกขาดของเนื้อเยื่ออ่อน อาทิเช่นการฉีกขาดของหมอนรองกระดูกก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังเฉียบพลันได้เช่นกัน แต่พบน้อยกว่าปัญหากล้ามเนื้อ อาทิเช่นในผู้ป่วยที่มีการเคลื่อนไหวตัวผิดปกติผิดท่าผิดทางหรือยกของหนักอาจมีการปริของเปลือกหมอนรองกระดูกเกิดขึ้น (Anular tear) ซึ่งบริเวณของเปลือกหมอนรองกระดูกนั้นมีเส้นประสาทฝอยอยู่จำนวนมากทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปตามเส้นปะสาทเหล่านี้และก่อให้เกิดอาการปวดหลังอย่างรุนแรงได้เช่นเดียวกันในกลุ่มที่มีการปริของเปลือกหมอนรองกระดูกและทำให้เกิดอาการปวดหลังอย่างรุนแรงนี้ ส่วนใหญ่สามารถหายได้ด้วยการนอนพัก รับประทานยา และกายภาพบำบัดเช่นเดียวกับปัญหาของกล้ามเนื้อแต่มีผู้ป่วยบางส่วนที่มีการปริฉีกขาดรุนแรงและเกิดปัญหาการแตกปริ้นของไส้หมอนรองกระดูก (Herniated Nucleus Pulposus) ตามมาในอนาคตได้ทำให้อาการเปลี่ยนจากอาการปวดหลัง (Back Pain) อย่างเฉียบพลันเป็นอาการปวดขา (Leg Pain) อย่างรุนแรง ซึ่งหมายถึงมีการกดทับเส้นประสาทเกิดขึ้นดังนั้นในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังเฉียบพลันจึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยในกรณีปวดหลังนั้น ไม่สามารถจะหายได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

73

อาการปวดบริเวณทวารหนัก

อาการปวดบริเวณทวารหนักเวลามีประจำเดือน (dyschezia) หมายถึงอาการปวดลึก ๆ บริเวณทวารหนักขณะมีประจำเดือน สาเหตุของอาการดังกล่าวมีได้หลายชนิด แต่ที่พบบ่อยและมักพบได้ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ เกิดเนื่องมาจากการที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกบริเวณทวารหนักหรือลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง ถ้าพยาธิสภาพของโรคมาก นอกจากจะปวดแล้วยังอาจทำให้มีอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด ๆ ได้ในระยะที่มีประจำเดือนเยื่อบุโพรงมดลูกบริเวณดังกล่าว มักพบร่วมกับเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่บริเวณช่องคลอดด้านหลังซึ่งอาจจะมีอาการเจ็บลึก ๆ ในอุ้งเชิงกรานหรือในบริเวณช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจจะมีอาการปวดลึก ๆ ในช่องคลอดหรือบริเวณท้องน้อยร่วมด้วยขณะที่มีประจำเดือนทางการแพทย์เรียกโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่รวมๆ กันว่า Endometriosisอาการปวดขณะร่วมเพศ อาจจะมาจากความผิดปกติทางกาย หรือทางจิตใจก็เป็นได้ สาเหตุทางกายที่พบได้บ่อยเกิดจากการที่อวัยวะสืบพันธุ์ภายในเช่นตัวมดลูกมีการยึดตรึง ทำให้เมื่อมีการร่วมเพศอวัยวะสืบพันธุ์ภายในโดยเฉพาะตัวมดลูก ซึ่งจะถูกกระทบกระแทกให้มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น จะเกิดการเจ็บปวด เพราะเอ็นหรือผังพืดที่มัดโยงอยู่ถูกยึดจนมีการฉีกขาด สาเหตุที่พบบ่อยจากการที่เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่หรือเกิดจากมีการอักเสบเก่าอยู่ก่อนทำให้เกิดแผลเป็นและพังผืดยึดตรึง มีบ้างที่เกิดจากสาเหตุเพราะความผิดปกติของช่องคลอด และปากช่องคลอดผิดสัดส่วน ซึ่งความผิดปกติลักษณะต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้ว สามารถจะใช้ยาหรือการผ่าตัดแก้ไขได้ภาวะมีบุตรยาก เป็นสาเหตุร่วมรับผิดชอบของคู่สามีภรรยา ปัญหาที่เกิดในเพศหญิงถือเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของการมีบุตรยากถึง 70 % อีก 30 % เป็นสาเหตุจากเพศชาย การตรวจหาความผิดปกติในเพศชายนั้น สะดวกกว่าเพศหญิง เพียงการตรวจพิเคราะห์น้ำอสุจิก็จะทราบได้ ในเพศหญิงสาเหตุส่วนใหญ่ของการมีบุตรยากเกิดจากปัจจัยของท่อนำไข่ผิดปกติตีบตัน คดงอ รองลงมาเกิดจากปัจจัยภายนอกของโพรงมดลูก เช่น อาจจะมีเนื้องอกหรือความสมบูรณ์ไม่พอเพียงของเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก และปัจจัยจากรังไข่ซึ่งเป็นแหล่งสร้างไข่เพื่อมาปฏิสนธิกับตัวอสุจิ โรคเยื่อบุ มดลูกเจริญผิดที่ก็เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะมีบุตรยากที่พบได้บ่อยในเวชปฏิบัติ ดังนั้นการวิเคราะห์หาสาเหตุของการก่อให้เกิดมีบุตรยาก จึงเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อการวางแผนการแก้ไขรักษาได้ถูกต้องต่อไปพยาธิสภาพของโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่อาจแตกต่างกันได้มาก …

อาการปวดบริเวณทวารหนัก Read More »

72

อาการปวดท้อง

อาการปวดท้อง (abdominal pain) ที่มีสาเหตุจากอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ภายในช่องท้อง ซึ่งเป็นไปได้ตั้งแต่ตับทางชายโครงขวา ม้ามทางชายโครงซ้าย กระเพาะอาหาร 9 และหลอดอาหารตรงกลาง ต่ำลงไปเป็นตับอ่อน ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ ในสตรีมียังมีอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่อาจเป็นสาเหตุของอาการปวดท้องได้ เช่น มดลูก ปีกมดลูก และรังไข่ ส่วนกระเพาะปัสสาวะที่อยู่ในอุ้งเชิงกรานนั้น ถ้าเกิดการอักเสบ ย่อมก่อให้เกิดปัญหาปวดท้องได้เช่นกันเนื่องจากอาการปวดท้องนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก ตั้งแต่โรคง่ายๆ ที่ไม่มีอันตรายมากนัก เช่นอาหารไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ โรคกระเพาะอาหาร หรือลำไส้ อักเสบ หรือปวดประจำเดือน ซึ่งอาจหายได้เอง หรือเมื่อได้รับยาบรรเทาอาการก็จะดีขึ้น ไปจนถึงโรคบางโรค ซึ่งเป็นโรคร้ายแรง ถ้าวินิจฉัยผิดพลาด หรือให้การรักษาไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ แผลในกระเพาะอาหารทะลุ ถุงน้ำดีอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ ลำไส้อุดตันหรือตีบตัน ท้องนอกมดลูก หรือถุงน้ำของรังไข่แตก เป็นต้นดังนั้น การที่ผู้ป่วย หรือผู้ใกล้ชิดที่ดูแลผู้ป่วย สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาการปวดท้องได้มากเท่าใด แพทย์ก็จะสามารถวินิจฉัยโรคเบื้องต้นได้และทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมได้ถูกต้อง รวดเร็วโดยไม่เสียเวลา หรือสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น สาเหตุ 1.อาการปวดท้องเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาการอาจเป็นแค่ปวดเล็กน้อย หรือปวดมากและรุนแรงมากได้ อาการปวดมักจะไม่จำเพาะเจาะจง …

อาการปวดท้อง Read More »

71

อาการปวดต้นคอ / สะบัก

อาการปวดต้นคอและสะบักก็เหมือนอาการปวดทั่วไป ที่ต้องคำนึงถึงว่าเป็นการปวดที่มี่สาเหตุจากตำแหน่งที่ปวดเอง หรือมีสาเหตุมาจากส่วนอื่นๆ แล้วปวดร้าวมาที่คอและสะบัก การปวดที่มีสาเหตุจากตำแหน่งที่ปวด อาจได้แก่ การอักเสบของกล้ามเนื้อและเอ็นบริเวณก้านคอ และพื้นที่ด้านข้างของกระดูกสันหลัง ระหว่างสะบัก 2 ข้าง บาง ครั้งอาจเป็นบริเวณเหนือไหล่ก็ได้ บางคนอาจเกิดขึ้นภายหลังการใช้งานผิดปกติเช่น เงยคอมากเกินไป เอี้ยวคอและไหล่มากเกินไป บางคนเกิดจากนั่งรถอยู่เบาะหน้าแล้ว เอื้อมไปหยิบของตรงเบาะหลัง บางคนเอื้อมแขนมากเกินไปเพื่อเก็บของ เป็นต้น ส่วนใหญ่อาการที่พบจะเป็นอาการเจ็บปวดเฉพาะที่ ไม่มีลักษณะของอาการปวดร้าวมาจากที่ใด การปวดที่มีสาเหตุจากส่วนอื่นๆ อาจได้แก่ การ ผิดปกติของหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ มีการเสื่อมหรือมีการอักเสบ หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอจะมีเส้นประสาทอยู่ภายใน หากมีการเปลี่ยนแปลงและมีการรบกวนเส้นประสาท จะทำให้คนไข้มีอาการปวดร้าวมาที่คอและพื้นที่ระหว่างสะบัก 2 ข้างได้ นอก จากนี้ในคนไข้ที่มีอายุมากขึ้นประมาณ 40ปีขึ้นไป ถ้าเกิดหมอนรองกระดูกเสื่อมมากขึ้นมีการยุบตัวของหมอนรองกระดูก ทำให้เกิดการแคบของช่องที่ เป็นทางออก ของเส้นประสาทที่จะมาเลี้ยงแขนและบางรายทำให้เกิดการสร้างกระดูกใหม่ที่ เรียกว่ากระดูกงอก แล้วไปกดทับเส้นประสาทที่มาเลี้ยงหัวไหล่ แขนหรือมือทำให้มีอาการปวด ชา หรืออ่อนแรงของแขนหรือมือได้ สำหรับการดูแลรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการระมัดระวังการใช้คอหรือการใช้ส่วน ที่เคลื่อนไหวแล้วทำให้เกิดอาการเจ็บ อาจใช้ยาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ยาคลายกล้ามเนื้อ ในบางรายอาจใช้กายภาพบำบัด หรือใช้การฉีดยาเฉพาะที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์ผู้รักษา ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ …

อาการปวดต้นคอ / สะบัก Read More »

70

อาการปวดจากการกดทับเส้นประสาทแบบไซอาติก

เส้นประสาทไซอาติก (Sciatic) เป็นเส้นประสาทขนาดใหญ่ที่วิ่งจากกระดูกสันหลังส่วนเอวไปเลี้ยงความรู้และกล้ามเนื้อของขา 2 ข้าง อาการปวดร้าวที่วิ่งไปตามเส้นประสาท Sciatic นี้ เราเรียกว่า อาการปวดแบบ Sciatic หรือ Sciatica pain ซึ่งพบบ่อยว่าเกิดจากการกดทับรากประสาทไขสันหลัง หรือ (Nerve Root Compression) จุดที่มีการกดทับรากประสาทที่พบบ่อยที่สุดที่ได้รับการวินิจฉัยก็คือบริเวณของ กระดูกสันหลังส่วนเอวโรคที่ทำให้เกิดการกดทับของรากประสาทตรงบริเวณไขสันหลังส่วนเอวที่พบบ่อยที่สุดก็คือ โรคของหมอนรองกระดูก ดังนั้น อาการปวดแบบ Sciatica Pain มักพบว่าเกิดจากปัญหาของหมอนรองกระดูกสันหลัง อาทิเช่นมีหมอนรองกระดูกสันหลังแตกไปกดทับรากประสาทที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวเป็นต้น ผู้ป่วยที่มีอาการปวดแบบ Sciatica Pain นี้ จะมีลักษณะที่ชัดเจนกล่าวคือ มีอาการปวดร้าวจากบริเวณหลังไปสะโพก และไปที่บริเวณของ ขาทั้ง 2 ข้าง หรือข้างเดียว หรือขาข้างใดข้างหนึ่ง อาการปวดจะเป็นรุนแรงในบางครั้งจะเป็นรุนแรงมากจนไม่สามารถจะเดินได้อาการปวดมักสัมพันธ์กับอริยาบทนั่งหรือยืน ผู้ป่วยมักกล่าวว่าอาการปวดอาจจะเป็นรุนแรงตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือนั่งนานๆไม่สามารถลุกขึ้นจากเก้าอี้หรือไม่สามารถลุกออกจากรถยนต์ที่นั่งอยู่เป็นเวลานานๆ ได้ เนื่องจากมีอาการปวดสะโพกร้าวลงไปตามด้านหลังของขาอย่างรุนแรงอาการปวดแบบ Sciatic จะมีลักษณะที่สำคัญ คือมักจะปวดตามเส้นและลงไปจนถึงน่องหรือปลายเท้าในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการป่วยแบบ Sciatic นี้ อาจจะเกิดจากปัญหาอื่นๆ ได้ที่ไม่ใช่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้น อาทิเช่นมีการกดทับที่บริเวณกล้ามเนื้อสะโพกหรือเกิดการกดทับจากการหนีบของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่พบบ่อยที่เป็นปัญหาคือกล้ามเนื้อ Piriformisซึ่งอยู่บริเวณสะโพก ก่อให้เกิดอาการปวดในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน คืออาการปวดร้าวจากสะโพกไปตามเส้นประสาทลงไปถึงปลายเท้าดังนั้นเมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดร้าวตามเส้นประสาท Sciatic …

อาการปวดจากการกดทับเส้นประสาทแบบไซอาติก Read More »

69

อาการปวดขาจากกล้ามเนื้อสะโพก หนีบเส้นประสาท

อาการปวดร้าวตามขามักถูกวินิจฉัยว่าเป็นอาการปวดที่เกิดจากการกดทับเส้นประสาทที่บริเวณกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการกดทับเส้นประสาทอย่างไรก็ตามเราพบว่ามีผู้ป่วยจำนวนนึง ที่อาการปวดร้าวตามขานั้นไม่ได้เกิด จากการกระดูกสันหลังแต่เกิดจากกล้ามเนื้อสะโพกมีการหนีบทับเส้นประสาทเกิดขึ้น กล้ามเนื้อที่พบบ่อยว่ากดทับหรือหนีบทับเส้นประสาท คือ กล้ามเนื้อ (Piriformis) ชึ่งโรคนี้ชื่อว่า (Piriformis Syndrome) ผู้ป่วยจะมีอาการปวดร้าวตามขาเรื้อรัง และมีอาการปวดสะโพกบริเวณที่นั่งทับอาจจะมีอาการเล็กน้อย จนถึงขั้นรุนแรง และเดินไม่ได้ผู้ป่วยบางรายได้รับการทำ MRI เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคกระดูกทับเส้นแต่พบว่ากระดูกสันหลังปกติทั้งหมด แต่ยังมีอาการปวดขาอย่างรุนแรงอยู่ทำให้ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรแต่สาเหตุที่ทำให้เกิดปวดขานั้นเกิดจากโรคนี้ ที่โชคร้ายกว่านั้นคือผู้ป่วยมีพยาธิสภาพบางอย่างอยู่ที่หลัง และมีอาการปวดขาที่เกิดจากกล้ามเนื้อหนีบทับเส้นประสาทนี้มีบางครั้งผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดที่กระดูกสันหลังไปแล้วไม่หายปวด จากอาการปวดขา ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อหนีบทับเส้นประสาทนี้ ดังนั้นในผู้ป่วยที่มีอาการปวดขาจะมีลักษณะคล้ายการปวดตามแนวของเส้นประสาทจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวินิจฉัยแยกระหว่างโรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อเกร็งตัวหนีบทับเส้นประสาทนี้ออกจากกันซึ่งจะทำให้อุบัติการณ์ของการผ่าตัดลดลงและผู้ป่วยไม่ต้องถูกผ่าตัดโดยไม่จำเป็น แพทย์ผู้ชาญทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู (Rehabilitation) จะเป็นผู้ที่ทำการรักษาโรคของกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทที่บริเวณของสะโพกได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่มาของที่ผู้ป่วยทุกรายควรจะได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ด้านเวชศาตร์ฟื้นฟู เพื่อแยกโรคกล้ามเนื้อต่างๆออกเสียก่อนที่จะได้รับการผ่าตัดเราเรียกการรักษาผู้ป่วยร่วมกันระหว่างศัลยแพทย์ และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยทั้งแพทย์สาขาอื่นๆนี้ว่าการรักษาแบบ Comprehensive Approach ซึ่งศูนย์รักษากระดูกสันหลังครบวงจร รพ.กรุงเทพ มีแนวทางการรักษาโรคกระดูกสันหลังโดยวิธีการดังกล่าวซึ่งน่าจะช่วยลดอุบัติการของการผ่าตัดซ้ำซ้อน หรือการผ่าตัดที่ไม่จำเป็นได้และนับเป็นประโยนช์ที่สำคัญสำหรับผู้ป่วย ที่มีปัญหาลักษณะดังที่กล่าว นาวาอากาศเอก นพ. ทายาท บูรณกาลผู้อำนวยการศูนย์กระดูกสันหลังครบวงจร รพ.กรุงเทพผู้ประพันธ์

68

อาการปวดแขนจากกล้ามเนื้อคอ หนีบเส้นประสาท

อาการปวดแขนจากกล้ามเนื้อคอ หนีบเส้นประสาทอาการปวดแขนที่ร้าวจากบริเวณคอไปไหล่ และไปปลายแขนนั้น โรคที่พบบ่อย คือ การกดทับเส้นประสาทที่บริเวณคออย่างไรก็ตามอาการปวดแขนที่ร้าวมาตามเส้นประสาทที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันยังสามารถเกิดจากกล้ามเนื้อคอหนีบทับเส้นประสาทได้กล้ามเนื้อที่พบบ่อยว่ามีการหนีบเส้นประสาทและทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงร้าวลงไปถึงปลายแขนได้ คือ กล้ามเนื้อ (Scalene) ดังนั้นจึงมีโรคอีกโรคหนึ่งที่เราควรนึกถึงว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปตามแขนได้คือโรคกล้ามเนื้อ Scalene บีบเส้นประสาทหรือ (Anterior Scalene Syndrome) อาการปวดอาจจะมีอาการรุนแรง จนกระทั่งผู้ป่วยจำเป็นต้องประคองแขนเอาไว้นิ่งๆ ผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งบางรายปวดมากจนร้องไห้สาเหตุที่กล้ามเนื้อ Scalene บีบทับเส้นประสาทนั้นเชื่อว่าเกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะจากการอยู่ใน Position หรื่อท่าทางที่ผิดปกติระยะเวลานานๆ การขาดการออกกำลังกาย ความเครียดผู้ป่วยบางรายมีประวัติ ว่านอนสัปหงก หรือฟุบไปกับโต๊ะหลายรายมีประวัติการใช้คอมพิวเตอร์ระยะเวลานานๆ บางรายนั่งหลับบนรถทัวร์เป็นต้น ทำให้เกิดอาการปวดร้าวตามแขน ในเวลาต่อมาปัญหาของการปวดร้าวตามแขนที่เกิดจากกล้ามเนื้อคอหนีบเส้นประสาท ที่เกิดจากการวินิจฉัยเนื่องจากมีอาการคล้ายกับการกดทับเส้นประสาทบริเวณกระดูกคอเป็นอย่างมากบางครั้งผู้ป่วยมีพยาธิสภาพ เช่น โรคหมอนรองกระดูกที่คออยู่แล้วจึงมักถูกวินิจฉัยเป็นเรื่องของกระดูกคอทับเส้นประสาท เป็นต้น แพทย์ที่ทำหน้าที่ในการรักษาโรคกล้ามเนื้อคอหนีบเส้นประสาท คือแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งมีวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและไม่ใช่การผ่าตัดอาทิเช่น การทำให้กล้ามเนื้อคอผ่อนคลาย โดยการใช้กายภาพบำบัดหรือการฉีดยาเข้าที่กล้ามเนื้อที่เป็นปัญหา เช่น การทำ (Trigger point injection) หรือการฉีดยาที่กล้ามเนื้อ Scalene การปวดแขนจากกล้ามเนื้อคอหนีบเส้นประสาทนี้มักจะหายได้หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและได้รับคำแนะนำในการใช้งานศีรษะและลำคอที่ถูกต้องเพื่อที่จะไม่ได้กลับมาเป็นอีกสิ่งที่สำคัญสำหรับการวินิจฉัยอาการปวดแขนจากกล้ามเนื้อนี้ คือต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อนการผ่าตัดหากผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดกระดูกคอมาแล้ว และไม่หายปวดผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการจากโรคกล้ามเนื้อคอหนีบเส้นประสาทนี้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ ผู้ป่วยที่มีอาการปวดร้าวไปตามแขนก่อนที่ได้รับการผ่าตัด ควรจะได้รับการวินิจฉัยแยกโรคของกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ และคอที่อาจจะหนีบทับเส้นประสาทนี้ออกไปเพื่อไม่ให้เกิดภาวะที่เรียกว่าการผ่าตัดแล้วไม่หายปวดเกิดขึ้นการรักษาแบบองค์รวมของศัลยแพทย์ และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูร่วมกันจะทำให้ลดอุบัติการผ่าตัดโดยไม่จำเป็นและสามารถรักษาอาการปวดแขนของเส้นประสาทนี้ได้โดยไม่ต้องผ่าตัดมากขึ้น นาวาอากาศเอก นพ. ทายาท บูรณกาลผู้อำนวยการศูนย์กระดูกสันหลังครบวงจร รพ.กรุงเทพผู้ประพันธ์

67

อาการชักในเด็ก

อาการชักในเด็กมีหลายรูปแบบขึ้นกับว่าสมองส่วนใดที่ทำงานผิดปกติ เด็กบางคนอาจมีแค่อาการเหม่อลอยช่วงสั้นๆเหมือนใจลอย โดยไม่มีอาการเกร็งหรือกระตุกของร่างกายให้เห็น บางคนอาจมีอาการเหมือนเป็นลมล้มลงทันที โรคลมชักบางชนิดสามารถทำให้เด็กมีอาการชักได้หลายรูปแบบ อาการ ชักบางประเภทเกิดเฉพาะบางช่วงอายุเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ รูปแบบอาการชักในแต่ละช่วงอายุจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยแยกชนิดของโรคลมชักใน เด็กได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ อาการชักอาจจะเกิดขึ้นเมื่อเด็กมีไข้สูงๆ มักจะมากกว่า 40 องศาเซลเซียส เรียกว่า Acute Febrile Seizure ซึ่งเกิดในเด็กที่อายุ 6 เดือนถึง 5 ปี สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการพัฒนาของสมองที่ยังไม่สมบูรณ์ในช่วงอายุน้อยจึงทำให้กลไกการปรับอุณหภูมิทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอาการชักนี้ จะไม่เกี่ยวกับพยาธิสภาพในสมองของเด็ก และจะไม่ทิ้งรอยโรคไว้ในสมองเด็ก เมื่ออายุมากขึ้น อาการชักเมื่อมีไข้สูงจะหายไปเอง เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดภาวะชักนี้ คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองจึงควรให้บุตรหลานทานยาลดไข้และเช็ดตัว เพื่อไม่ให้อุณหภูมิกายเด็กแตะ 40 องศาเซลเซียส อาการชักไม่ใช่แค่เกร็งกระตุกทั้งตัว อาการชักที่เป็นที่รู้จักกันดี และสามารถสังเกตได้ชัดเจนคือ อาการเกร็งกระตุกทั้งตัว ตาเหลือก และหมดสติไม่รูสึกตัว ซึ่งสมัยก่อนเรียก อาการชักเช่นนี้ว่า “ลมบ้าหมู” นอกจากนี้ยังมีอาการชักบางประเภทที่ผู้ป่วยอาจไม่ชักเกร็งกระตุกทั้งตัว ได้แก่ อาการชักเฉพาะส่วน (Partial Seizure) เช่น อาการกระตุกของแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือ ใบหน้า อาการคลื่นไส้ปวดท้อง อาการกลัวหรือความรู้สึกแปลกๆ อาการเห็นภาพหลอนหรือหูแว่ว …

อาการชักในเด็ก Read More »

66

อาการของผู้ป่วยโรคเอดส์

แม้ว่าโรคเอดส์จะยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ในปัจจุบัน แต่ถ้าผู้ติดเชื้อเอดส์รู้ตัวได้เร็ว มีการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ก็สามารถจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไปได้อีกหลายปีทีเดียวล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นลองฟังดูนะคะว่า อาการนำที่พบได้บ่อย ๆ ในผู้ติดเชื้อเอดส์ นั้นมีอะไรบ้าง 1.มีไข้ต่ำ ๆ เรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็น ๆ หาย ๆ หรือเป็นตลอดเวลา มีเหงื่อออกมาตอนกลางคืน2.น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว กว่าร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัวในระยะเวลา 1 เดือน เบื่ออาหาร อ่อนเพลียเหนื่อยง่าย3.ต่อมน้ำเหลืองโต คลำได้เป็นก้อนขนาดโตกว่า 1-1.5 เซนติเมตร หลายตำแหน่ง เช่น บริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ4.มีอาการทางจิตประสาท เช่น ความจำเสื่อม อารมณ์แปรปรวนเปลี่ยนแปลงง่าย และอาจมีอาการทางสมอง เช่น แขนขาชา อัมพาตครึ่งซีก ชักกระตุก5.มีฝ้าขาวที่ลิ้นและช่องปากเป็นเวลานานเกิน 2 สัปดาห์6.มีเริมที่ริมฝีปากหรืออวัยวะเพศ มักเป็นชนิดลุกลามและเป็นอยู่นาน7.มีอาการกลืนเจ็บ กลืนติด กลืนลำบาก สาเหตุเกิดจากเชื้อราในช่องปากลุกลาม ลงไปที่หลอดอาหารส่วนต้น ทำให้หลอดอาหารเกิดการอักเสบ8.มีผื่นสีม่วงแดงหรือตุ่มสีม่วงขึ้นตามผิวหนัง แขน ขา ลำตัว หน้า ศีรษะ อวัยวะเพศ …

อาการของผู้ป่วยโรคเอดส์ Read More »

Scroll to Top