article_writer

95

กินอย่างไรจะห่างไกลโรคในวัยทอง

การกินดี หมายถึงการกินอาหารให้ได้คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน พอเพียงและพอดี อันจะนำมาซึ่งสุขภาพดีทั้งในปัจจุบันและอนาคตการกินดีอยู่ดีมาตลอดตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ย่อมจะส่งผลดีต่อไปในอนาคตคือ เป็นผู้ใหญ่วัยทองที่แข็งแรง ปราศจากโรค สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทำประโยชน์ให้กับครอบครัวและสังคมส่วนรวมได้ด้วย แต่ถ้าปฎิบัติตนไม่ถูกต้องทั้งในด้านการกิน การเสพ ผลก็คือเป็นผู้ใหญ่ที่แม้ว่าจะมีชีวิตยืนยาวก็ไม่สมบูรณ์ อาจมีโรคแห่งความเสื่อมรบกวน เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคกระดูกโปร่งบางหักง่าย โรคมะเร็ง ฯลฯ การบริโภคอาหารด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสุขภาพอันดีทั้งในปัจจุบันและอนาคต จำเป็นต้องอาศัยความรู้เรื่องคุณค่าของอาหาร ประกอบกับความตั้งใจแน่วแน่ที่จะบริโภคเพื่อสุขภาพมากกว่ารับประทานตามใจปาก โดยมีหลักปฏิบัติคือ– เลือกอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการดี– เลือกอาหารที่ประหยัด คือ อาหารที่หาง่ายในท้องถิ่นหรือมีตามฤดูกาลและรับประทานอย่างคุ้มค่า ไม่เหลือทิ้ง– เลือกอาหารที่ปลอดภัยจากสารพิษทั้งปวง เช่น สีสังเคราะห์ สารก่อมะเร็ง ฯลฯ การเลือกอาหารให้มีความหลากหลายไม่จำเจในหมวดต่างๆ มีหลักดังนี้ หมวดข้าว ควรเป็นข้าวที่ไม่ขัดจนขาว ซึ่งจะได้รับใยอาหารและวิตามินที่ป้องกันโรคเหน็บชามากกว่าข้าวขาว หมวดเนื้อสัตว์ แหล่งอาหารให้โปรตีนคุณภาพดีและมีไขมันน้อย เช่น เนื้อปลา ควรบริโภคทั้งปลาน้ำจืดซึ่งหาได้ง่ายในท้องถิ่น ปลาทะเลซึ่งให้ธาตุไอโอดีนป้องกันคอพอก และปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทู ปลาโอ ปลาซาบะ ซึ่งมีกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 ที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดตีบหรืออุดตันและจะทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด สมองขาดเลือดตามมา พร้อมกับบริโภคเนื้อสัตว์อื่นๆ …

กินอย่างไรจะห่างไกลโรคในวัยทอง Read More »

94

กินน้ำตาลเกิน 6ช้อน/วัน เสี่ยงต่อโรคมากมาย

ปกติร่างกายเรามีโควต้าในการทานน้ำตาลในแต่ละวันอยู่แล้ว ซึ่งโควต้าที่ว่าจะหมายถึงน้ำตาลที่ถูกปรุงแต่งไว้ในอาหารแต่ละมื้อของเรา แต่นอกจากน้ำตาลที่ถูกปรุงแต่งไปนอาหารแล้วเรายังสามารถทานน้ำตาลได้อีก 6ช้อนชา/วัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่ร่างกายเราต้องการต่อวัน แต่ถ้าหากเราทานเกิน 6ช้อนชา/วัน เราก็จะเสี่ยงต่อโรคต่างๆ หลายๆคนอาจจะคุ้นกับโรคเบาหวาน แต่รู้หรือไม่ นอกจากทานหวานแล้วเสี่ยงต่อโรคเบาหวานแล้วยังมีโรคอื่นๆอีกมากมายที่เสี่ยงที่จะเป็นนั่นก็คือ– โรคหัวใจ– โรคภาวะจอประสาทตาเสื่อม– ไตเสื่อม– หลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งอาหารนอกจากมื้อหลักที่เราทานก็จะมีส่วนผสมน้ำตาลอยู่มากมาย เรามาดูกันว่าในเครื่องดื่มยอดฮิตแต่ละอย่าง มีน้ำตาลอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่บ้างไปดูกันเลย– น้ำอัดลม มีน้ำตาลประมาณ 6 ช้อน– กาแฟ มีน้ำตาลประมาณ 9 ช้อน– ชานมไข่มุก มีน้ำตาลประมาณ 11 ช้อน จะเห็นได้ว่าเครื่องดื่มแต่ละอย่างมีปริมาณน้ำตาลสูงกว่าที่ร่างกายเราต้องการมากถ้าอยากลดต้องทำยังไง? น้องตาโตมี Trick มาฝากดังนี่ – ลดโดยการใช้น้ำตาลเทียม โดยน้ำตาลเทียม ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พอเราค่อยๆลดได้แล้วก็สามารถเลิกใช้ได้เลย– ค่อยๆลดปริมาณน้ำตาลในการปรุง– เวลาทานก๋วยเตี๋ยวแห้งให้ลองเปลี่ยนมาทานแบบน้ำแทน ซึ่งเวลาเราทานเราก็ทานเอาแต่เส้นและเนื้อสัตว์เข้าไปโดยไม่ต้องทานน้ำก๋วยเตี๋ยวเข้าไปด้วย เป็นยังไงบ้าง น้องตาโตมีวิธีลดน้ำตาลง่ายๆที่สามารถทำได้มาฝาก ทุกคนสามารถทำได้เลย ลดน้ำตาลต้องลดตอนนี้ อย่ารอ มารักสุขภาพไปพร้อมกับเรา

93

กินอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวาน

“อาหารเบาหวาน” ไม่ใช่อาหารที่มีความพิเศษแตกต่างจากอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวันแต่อย่างไร ดังนั้น ผู้ที่เป็นเบาหวานสามารถรับประทานอาหารได้เหมือนคนปกติทั่วไป เพียงแต่เพิ่มความระมัดระวังในการเลือกชนิดอาหารที่มีคุณภาพ และควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานให้เหมาะสมมากขึ้นสักหน่อย เพื่อที่จะไม่ให้ได้รับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายมากจนเกิน เมื่อมาถึงจุดนี้เรามักจะพบเจอประเด็นคำถามเกี่ยวกับกินอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวาน มากมายหลายคำถาม วันนี้เรามาดูประเด็น คำถามที่พบได้บ่อยคำถามหนึ่ง คือประเด็นคำถามที่ว่า “อาหารอะไรบ้างที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น” เพื่อเป็นการตอบคลายข้อสงสัยดังกล่าว เรามาดูกันเลยว่ามีอาหารประเภทใดกันบ้าง โดยปกติอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ข้าว-แป้ง ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ไข่ ล้วนมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แต่ในปริมาณมากน้อยที่แตกต่างกัน และเราพบว่าอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบจะมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารประเภท โปรตีน หรือไขมัน ดังนั้นเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ผู้ที่เป็นเบาหวานจึงควรมีการควบคุมปริมาณอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม แล้วอาหารอะไรบ้างที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบ คำตอบคือคาร์โบไฮเดรตเราพบในอาหารประเภทต่างๆดังต่อไปนี้ คือ ข้าว-แป้ง น้ำตาล ผัก ผลไม้ นมและผลิตภัณฑ์นม เป็นต้น ซึ่งเราไม่พบคาร์โบไฮเดรตในอาหารประเภท เนื้อสัตว์ และไขมัน อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต 1.น้ำตาล : น้ำตาลเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็ว โดยน้ำตาลจะเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดได้ 100% ในระยะเวลาเพียง 15-30 นาทีเท่านั้น ซึ่งนั่นคือทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างอาหารที่มีน้ำตาลมาก ได้แก่ น้ำตาลทราย น้ำหวาน น้ำอัดลมทุกประเภท …

กินอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวาน Read More »

92

การออกกำลังกายในฤดูร้อน

ในปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมากมายหลายเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการพูดถึงการทำลายสิ่งแวดล้อม/ การปลูกป่า/ การใช้ชีวิตประจำวันที่มีส่วนในการทำลายสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา/ มีการกล่าวถึงอุณหภูมิของโลกที่นับวันแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความน่ากลัวต่อคนรุ่นต่อๆ ไป ที่จะต้องเผชิญต่อภาวะที่นับว่าเลวร้ายต่อพลเมืองโลกในอนาคต สำหรับเมืองไทยของเรา ความร้อนของบรรยากาศโดยรวมสูงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ภาคไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ส่วนภาคใต้นั้นอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล มีเรื่องลมและฝนตกช่วยให้คลายร้อนได้อยู่บ้าง แต่ก็มีความรุนแรงในเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้ผู้คนไม่มีความสุขในบางจังหวัด ซึ่งไม่ใข่ฤทธิ์ของความร้อนของบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่ท่านควรทราบสำหรับการออกกำลังกายในฤดูร้อน เวลาออกกำลังกายแล้วทำไมเกิดความร้อนในร่างกาย?เวลาออกกำลังกายจะต้องอาศัยการทำงานของกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้อขาและต้นขา เวลาเราจะวิ่งกล้ามเนื้อแขน มือ ไหล่ จะถูกใช้งานเวลาเล่นกีฬาที่ต้องใช้แขน เช่น บาสเกตบอล ปิงปอง แบดมินตัน กอล์ฟ เป็นต้น พลังงานที่เกิดขึ้นจากการทำงานของกล้ามเนื้อเพียงหนึ่งในสี่ส่วนเท่านั้นที่ใช้ไปการทำให้เกิดการเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่ ส่วนที่เกิดขึ้นอีก สามในสี่ส่วน จะส่งผลให้เกิดความร้อนขึ้นมา ซึ่งหากออกกำลังกายยิ่งนานเท่าใด ร่างกายจะต้องมีวิธีการกำจัดความร้อนที่เกิดขึ้นนี้ออกนอกร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ มิฉะนั้นจะทำให้เกิดความร้อนมากเกินสะสมอยู่ในร่างกายทำให้ภาวะที่เรียกว่า HYPERTHERMIA (OVERHEATING) จนบางครั้งทำให้เกิดภาวะหมดสติเพราะความร้อนเกินได้ที่เรียกว่า HEAT STROKE ในช่วงก่อนออกกำลังกายที่เราแนะนำให้ทุกคนอบอุ่นร่างกาย หรือ การ WARM-UP นั้น เราพบว่าอุณหภูมิในร่างกายช่วงที่มีการอบอุ่นร่างกายจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส และเมื่อออกกำลังกายต่อไป ร่างกายก็จะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นไปตามลักษณะร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป …

การออกกำลังกายในฤดูร้อน Read More »

91

การออกกำลังกายแอโรบิค

ทำไม่จึงต้องออกกำลังกาย การป้องกันเสริมสร้างสุขภาพ เป็นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพ เพราะได้ผล และประหยัดที่สุด สุขภาพที่ดี คือ ดีทั้งทางกาย และใจ ขณะนี้สาเหตุการตายของประชาชนในประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้เปลี่ยนจากโรคติดเชื้อ เป็นโรคที่ไม่ติดเชื้อ และจากพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ยาเสพย์ติด เพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม ฯลฯ คนเราทุกคนจะต้องแก่ เจ็บ และตายทุกคน แต่ในปัจจุบันนี้เราสามารถป้องกันโรคได้หลายโรค ฉะนั้น จึงควรแก่อย่างมีคุณภาพ และไม่ควรเสียชีวิตจากโรคที่ป้องกันได้ โรค และสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้คนไทยเสียชีวิต 1. ปัจจุบันนี้ โรคที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด 3 อันดับแรกต่อประชากร 100,000 คน คือ– โรคหัวใจ และหลอดเลือด– อุบัติเหตุ และสารเป็นพิษ– โรคมะเร็ง 2. โรคที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ คือ โรคอัมพาต โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน โรคสมองเสื่อม การหกล้ม และกระดูกหัก ฯลฯ …

การออกกำลังกายแอโรบิค Read More »

90

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง อดทน มีพละกำลังในการทำงาน มีอารมณ์และจิตใจที่แจ่มใสเบิกบาน กระฉับกระเฉงตลอดเวลา มีความคิดที่ฉับไว ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมเสมอที่จะเผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน การออกกำลังกายยังช่วยให้บุคลิกภาพ รูปร่างสง่างามทุกย่างก้าว เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง เมื่อรูปร่างได้สัดส่วนสวยงาม การสร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญเริ่มต้นต้องมีกำลังใจที่แน่วแน่ ควรให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับเพื่อน ชักชวนไปออกกำลังกายด้วยกัน ความสุขจากการออกกำลังกายหาได้ไม่ยาก เพียงแค่สร้างความพร้อมที่จะเริ่มต้นออกกำลังกายอย่างถูกต้อง ทดสอบสมรรถภาพก่อนออกกำลังกาย การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย รวมทั้งการตรวจสุขภาพร่างกาย เป็นสิ่งที่พึงกระทำก่อนการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายนั้น ร่างกายจะต้องทำงานมากว่าภาวะปกติ ผลการทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนการออกกำลังกายจะเป็นตัวชี้วัดว่าควรออกกำลังกายแบบใด หนักแค่ไหน ใช้เวลาเท่าไร บ่อยแค่ไหน และควรมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำหรือจัดโปรแกรมการออกกำลังกาย จะทำให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างมั่นใจและถูกต้องตามหลักวิชาการมากขึ้น การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ควรมุ่งหวังให้เกิดการเพิ่มสมรรถภาพร่างกายทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1. ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและปอด โดยถ้าหัวใจ ปอด และระบบไหลเวียนของเลือดสมบูรณ์แข็งแรง จะช่วยให้ไม่เหนื่อยง่าย จึงป้องกันและรักษาโรคหัวใจขาดเลือดได้2. ความแข็งแรงของข้อต่อและเส้นเอ็น โดยต้องการให้ข้อต่อและเอ็นที่ยึดข้อต่ออ่อนตัวและยืดหยุ่น ป้องกันการติดยึดของข้อต่อและภาวะข้อเสื่อมเมื่อถึงวัยกลางคนและวัยสูงอายุ3. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ4. ความอดทนของกล้ามเนื้อ เพื่อลดอาการเมื่อยล้าในชีวิตประจำวัน5. การมีสัดส่วนของร่างกายที่เหมาะสม รวมทั้งสัดส่วนไขมันของร่างกายที่ไม่มากเกินไป ออกกำลังกายแค่ไหนจึงจะดี การออกกำลังกายควรเริ่มด้วยการออกกำลังกายแบบเบาๆ และค่อยๆเพิ่มความหนักขึ้นโดยใช้ชีพจรเป็นตัวกำหนดความหนัก ซึ่งชีพจรสูงสุดของแต่ละคนสามารถคำนวณได้โดยนำ 220-อายุ …

การออกกำลังกาย Read More »

89

การอบอุ่นร่างกาย

หรือคำว่า “วอร์ม อัพ ” ในภาษาอังกฤษ เป็นคำที่ทุกท่านอาจจะคุ้นเคย ถ้าหากท่านเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นประจำ สำหรับท่านที่ดูกีฬาทางทีวี ท่านอาจจะได้ยินผู้บรรยาย พูดว่า “ผู้เล่นกำลังวอร์มอยู่ก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้น”การอบอุ่นร่างกาย จะทำให้กล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อต่างๆ ตลอดจนหัวใจ และปอด ได้รับสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่า อีกสักครู่จะต้องทำงานมากขึ้น การอบอุ่นร่างกายจะประกอบไปด้วยการยืดกล้ามเนื้อ และเอ็นของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ ประมาณ 5-10 นาที ซึ่งขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของสถานที่ที่จะออกกำลังกายด้วย ถ้าอากาศเย็นอาจต้องเพิ่มเวลา การอบอุ่นร่างกาย เพราะจะทำให้เลือดมาเลี้ยงกล้ามเนื้อต่างๆ มากขึ้น กีฬาแต่ละประเภทจะมีวิธีการอบอุ่นร่างกายไม่เหมือนกัน แต่หลักการ ก็คือ ต้องการให้กล้ามเนื้อและเอ็นต่างๆ ได้ถูกยืดออกให้เต็มที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะออกกำลังกายจริง เพราะเวลาออกกำลังกายจริง การเคลื่อนไหวของร่างกายตามลักษณะกีฬาและวิธีออกกำลังกายที่ท่านจะเล่นต่อไป จะต้องอาศัยการยืด หรือการหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ ถ้าหากไม่ได้ยืดเอาไว้ก่อน กล้ามเนื้อหรือเอ็นอาจได้รับบาดเจ็บ ในบางรายอาจฉีกขาดได้ กล่าวโดยสรุป ประโยชน์ในการอบอุ่นร่างกาย มีดังนี้ คือ – เป็นการเตรียมกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อต่างๆ ให้พร้อมที่จะออกกำลังกายต่อไป ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งในด้านประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ และในด้านป้องกันการบาดเจ็บจากกีฬา เช่น กล้ามเนื้อฉีกหรือข้อแพลง เป็นต้น– …

การอบอุ่นร่างกาย Read More »

88

การสำลักอาหาร

การสำลักอาหาร ภาวะการสำลักอาหาร คือการที่มีเศษอาหารหรือน้ำ (Food particle) หลังกลืนอาหารหล่นเข้าไปอยู่ในหลอดลม ซึ่งจะทำให้เกิดอาการไอติดต่อกันหลายๆครั้งเพื่อขับดันให้เศษอาหารนั้นหลุดออกไปจากหลอดลม ปกติแล้วเมื่อเกิดกระบวนการกลืนอาหารขึ้น โคนลิ้นจะผลักอาหารให้เข้าไปอยู่ในคอหอยจากนั้นฝาปิดกล่องเสียงจะเคลื่อนตัวลงมาปิดทางเข้าของกล่องเสียงรวมทั้งสายเสียงทั้ง 2 ข้างจะเคลื่อนตัวมาชิดกันเพื่อปิดทางเข้าของหลอดลมทำให้อาหารที่กำลังจะเคลื่อนตัวผ่านลงไปในทางเข้าของหลอดอาหารนั้นไม่สามารถหลุดเข้าไปในหลอดลมได้ จึงไม่เกิดการสำลักขึ้นซึ่งการสำลักอาหารนั้นจึงเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ ดังนี้ 1. คนที่พูดในขณะรับประทานอาหาร หรือในขณะกลืนอาหารนั้น ฝาปิดกล่องเสียงและสายเสียงจะเปิดออกเพื่อให้เกิดเสียงพูด อาหารจึงตกลงไปในหลอดลมและเกิดการสำลักขึ้นได้ 2. ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดบริเวณคอหอย เช่นผ่าตัดโคนลิ้น ผ่าตัดมะเร็งคอหอย ผ่าตัดมะเร็งกล่องเสียงจะทำให้การทำงานของอวัยวะเหล่านี้ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ จึงเกิดการสำลักขึ้น 3. ผู้ป่วยที่สายเสียงเป็นอัมพาตขยับและทำงานไม่ได้ก็จะเกิดการสำลักอาหารและน้ำ รวมทั้งมีอาการเสียงแหบร่วมด้วย 4. ผู้ป่วยที่ได้รับการฉายแสงบริเวณลำคอ บางครั้งจะเกิดการบวมของเนื้อเยื่อในคอได้ และเกิดการสำลักอาหารได้เช่นกัน 5. ผู้ป่วยที่ได้รับการดมยาสลบมีการใส่ท่อช่วยหายใจ บางครั้งจะทำให้สายเสียงบวมและทำงานผิดปกติไปได้ จึงเกิดภาวะเสียงแหบและการสำลักอาหารขึ้นได้ การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและตำแหน่งของอวัยวะที่ทำให้เกิดการสำลักบางกรณีสามารถรักษาได้ด้วยยา บางกรณีอาจต้องใช้การฝึกกลืนช่วยบางกรณีใช้วิธีการฝึกการออกเสียงเพื่อให้สายเสียงแข็งแรงขึ้นและบางกรณีอาจต้องอาศัยการผ่าตัด ซึ่งภาวะการสำลักอาหารนั้นถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ หรือรุนแรง (โดยเฉพาะในคนสูงอายุ)สามารถทำให้เกิดทางเดินหายใจอักเสบติดเชื้อได้ เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบเป็นต้น แพทย์หญิง จิราวดี จัตุทะศรีหูคอจมูกผู้ประพันธ์

87

การสวนล้างช่องคลอด

ช่องคลอดของผู้หญิงมีลักษณะเป็นถุงตัน ผนังถุงนั้นปกติจะชิดติดกัน ยกเว้นคนที่เคยผ่านการคลอดบุตรมาแล้ว ผนังของถุงอาจจะแยกออกจากกันและปากถุงมีลักษณะเผยอได้ ผนังช่องคลอดจะมีลักษณะขรุขระคล้ายลูกคลื่น โดยเฉพาะในวัยสาวจะเห็นเด่นชัด แต่ในวัยใกล้หมดประจำเดือนหรือที่เรียกกันว่าวัยทอง ลูกคลื่นนี้จะแบนราบลง กลายเป็นหนังเรียบและบาง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเป็นเพราะการขาดฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในช่วงวัยทองนั่นเองถัดจากปากช่องคลอดด้านนอกเข้ามา 3-4 มิลลิเมตร จะมีเยื่อหนาตัวเป็นวงแหวนล้อมรอบช่องคลอด เรียกว่าเยื่อพรหมจรรย์ โดยทั่วไปเชื่อกันว่าเยื่อพรหมจรรย์จะฉีกขาดเมื่อมีการร่วมเพศครั้งแรก ส่วนความลึกของช่องคลอดนั้นเมื่อคลำเข้าไปด้านหน้า ลึกไม่เกิน 6-7 เซนติเมตร คลำไปด้านหลัง ลึกไม่เกิน 8-9 เซนติเมตร เนื่องจากช่องคลอดด้านหลังลึกกว่าด้านหน้า ตรงบริเวณกลางๆของก้นถุงช่องคลอดจะมีปากมดลูก ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนกลมแข็ง คล้ายยางลบดินสอยื่นยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ตรงกลางของปากมดลูกจะมีรูปากมดลูกภายในช่องคลอดนั้นตามปกติของคนวัยสาวจะอยู่ในสภาพเป็นกรด เพราะผนังช่องคลอดของคนวัยสาวนั้นถูกกระตุ้นโดยฮอร์โมนเพศที่ชื่อเอสโตรเจน ฮอร์โมนเอสโตรเจนกระตุ้นเซลบุผนังช่องคลอดให้สะสมสารคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งชื่อไกลโคเจน (Glyclgen) สารไกลโคเจนนี้จะถูกแบคทีเรียในช่องคลอดที่มีอยู่แล้วเปลี่ยนเป็นกรดแลคติค และกรดแลคติคนี้เองช่วยรักษาสภาพกรดด่างของช่องคลอดไว้ความสำคัญของสภาวะกรดด่างของช่องคลอด เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่มักก่อให้เกิดการอักเสบติดเชื้อภายในช่องคลอด เมื่อช่องคลอดเป็นกรด โอกาสติดเชื้อทางช่องคลอดก็น้อยลง สำหรับตกขาวธรรมดานั้น จะมีสีขาวปนมูก ไม่คัน ไม่มีกลิ่นเหม็น จำนวนไม่มาก เกิดจากการหลุดลอกของเยื่อบุผนังช่องคลอดตามธรรมชาติ และแบคทีเรียที่อาศัยเป็นปกติอยู่ภายในช่องคลอด ดังนั้นตามปกติคนในวัยสาวซึ่งยังไม่มีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดก็มักเป็นกรดอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีการติดเชื้อผิดปกติอะไร จึงไม่จำเป็นต้องสวนล้างเอาตกขาวธรรมดาออก แต่ในกรณีที่ต้องการให้ช่องคลอดเป็นกรด เพื่อป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ซ้ำ เช่น คนที่เคยติดเชื้อรารักษาหายแล้ว คนที่เคยติดเชื้อโรคต่างๆ …

การสวนล้างช่องคลอด Read More »

86

การสวนปัสสาวะทิ้งด้วยตนเองในผู้หญิง

เริ่มแรกเรามาทำความรู้จักอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการขับถ่ายปัสสาวะกันก่อน ระบบทางเดินปัสสาวะมีส่วนประกอบที่สำคัญ 5 ส่วนด้วยกันคือ 1.ไตสองข้าง2.หลอดไตสองอัน3.กระเพาะปัสสาวะ4.กล้ามเนื้อหูรูด5.ท่อปัสสาวะ ไตของเราจะกรองเลือดที่ไหลเวียนภายในตัวเราและขับของเสียหรือสารส่วนที่เกินความต้องการออกมาเป็นน้ำปัสสาวะ ไหล ผ่านหลอดไตลงไปเก็บไว้ในกระเพาะปัสสาวะ ไหลผ่านหลอดไตลงไปเก็บไว้ในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเปรียบเสมือนกับถุงกล้ามเนื้อคล้ายลูกโป่งจุได้ประมาณ 300-400 ซีซี ปัสสาวะถูกเก็บไว้ในกระเพาะปัสสาวะโดยมีกล้ามเนื้อหูรูดเป็นวงๆรัดอยู่ที่ ท่อปัสสาวะ เมื่อมีปัสสาวะเต็มกระเพาะปัสสาวะ ตัวกระเพาะปัสสาวะจะส่งความรู้สึกไปที่สมอง สมองก็จะส่งให้กล้ามเนื้อหูรูดคลายตัวออก เราก็จะถ่ายปัสสาวะออกมาเองซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยทั่วไปคนเราจะเริ่มมีความรู้สึกปวดเมื่อมีปัสสาวะประมาณ 150-200 ซีซี หากเรายังไม่พร้อมหรือยังไม่ต้องการที่จะถ่ายปัสสาวะก็อาจจะเก็บไว้ได้อีก ระยะหนึ่งจนถึงประมาณ 300-400 ซีซี ซึ่งจะรู้สึกปวดมากขึ้นจำเป็นที่จะต้องปัสสาวะทิ้งไปเพราะใกล้จะล้นแล้ว มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ กล้ามเนื้อหูรูดหรือการสั่งงานของสมองทำงานไม่ดี จะทำให้กระเพาะปัสสาวะยืดออกมากจนเกินไป จะเกิดการอักเสบขึ้นไปถึงไต เกิดแผลที่ไตในที่สุดจะทำลายไตข้างนั้นด้วย การสวนปัสสาวะทิ้งเป็นครั้งคราวจะช่วยให้กระเพาะปัสสาวะไม่ยืดจนเกินไป ทำไมจึงต้องสวนปัสสาวะทิ้งเป็นครั้งคราว ? ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะยืดมากเกินไป ซึ่งจะสูญเสียแรงบีบตัว ลดจำนวนปัสสาวะที่เหลือค้าง หลังจากถ่ายปัสสาวะแล้ว แต่ออกไม่ได้หมด ปัสสาวะไม่ล้นซึม คุณมีสุขภาพกายและใจดีขึ้น เมื่อไม่ต้องมีสายสวนคาอยู่ตลอดเวลา แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง ? 1.สายยางหรือแท่งแก้ว สำหรับสวนปัสสาวะ2.สบู่ล้างมือ ผ้าเช็ดมือหรือกระดาษทิชชู3.กล่องพร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น Savlon สำหรับแช่สายยางหรือแท่งแก้ว4.สำลีก้อนสำหรับชุบน้ำยาทำความสะอาดท่อปัสสาวะก่อนสวน5.กระจกขนาดแผ่นโตพอสมควร สำหรับส่องดูท่อปัสสาวะ6.ภาชนะตวงใส่ปัสสาวะ7.สารหล่อลื่นสายสวน8.ชาม/ถ้วย ใบใหญ่ สำหรับใส่ปัสสาวะ …

การสวนปัสสาวะทิ้งด้วยตนเองในผู้หญิง Read More »

85

การสลายนิ่ว

ในปัจจุบันนี้กรรมวิธีในการรักษาโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะในปัจจุบันได้พัฒนาไปมากมีวิธีการรักษาใหม่ๆหลายวิธี รวมทั้งการสลายนิ่วด้วย การสลายนิ่วเป็นกรรมวิธีการรักษาโรคนิ่วที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องดมยาสลบ ทำโดยการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่ออกแบบมาโดยเฉพาะทำให้เกิดแรงกระแทก และก่อให้ก้อนนิ่วร้าวและแตกออกเป็นผงในที่สุด ซึ่งแหล่งกำเนิดคลื่นเสียงนี้มีหลายชนิด แล้วแต่บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือแต่จะมีหลักการเดียวกัน โดยเครื่องกำเนิดคลื่นออกมาเป็นช่วงๆ ตามการควบคุมของแพทย์ เมื่อผ่านออกมาแล้วสามารถผ่านเนื้อของคนไข้ โดยไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อเมื่อกระทบกับก้อนนิ่วซึ่งจะมีความแข็งมากกว่าเนื้อของคนไข้มากจะเกิดแรงกระแทกขึ้น ทำให้เกิดรอยปริบริเวณก้อนนิ่วแตกออกเป็นเม็ดเล็กๆและกลายเป็นผงนิ่วในที่สุด เมื่อนิ่วแตกออกเป็นผงแล้วจะถูกขับออกมาโดยกลไกตามธรรมชาติ คือน้ำปัสสาวะจะชะก้อนนิ่วให้คนไข้ถ่ายปัสสาวะออกมาเอง การสลายนิ่ว (ESWL; Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy) เป็นการรักษาโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะด้วยเครื่องมือที่สามารถสร้างและส่งคลื่นพลังงานช็อคเวฟจากนอกตัวผู้ป่วย เข้าไปยังเป้าหมายคือนิ่วในตัวผู้ป่วยให้นิ่วแตกสลายออกเป็นชิ้นเล็กพอที่จะผ่านออกมาได้เองตามกระแสปัสสาวะ shock wave เป็นคลื่นพลังงานรูปหนึ่งที่มีความถี่ต่ำ เกิดเป็นช่วงๆ แต่มีแรงดันสูง การเกิดคลื่นในช่วงแรงดันบวกจะเกิดในช่วงสั้น ตามมาด้วยแรงดันลบ ในช่วงระยะเวลาที่นานกว่า นิ่วแตกได้อย่างไร มีกลไกที่เกิดจากแรง 3 อย่างที่ทำให้นิ่วแตก ได้แก่ compression force, spalling force และ cavitation force พลังงานช็อคเวฟจากนอกตัวผู้ป่วยที่กำเนิดจากเครื่องสลายนิ่ว จะผ่านมาที่ตัวนิ่วด้านหน้า พลังงานนี้จะทำให้เกิดแรงอัดที่เรียกว่า compression force แรงนี้จะเริ่มทำให้นิ่วแตก นอกจากนี้เมื่อพลังงานนี้ผ่านตัวนิ่ว จะเกิดแรงสะท้อนกลับบริเวณด้านหลังนิ่วตำแหน่งที่นิ่วสัมผัสกับปัสสาวะ ซึ่งเป็นของเหลวที่อยู่รอบ แรงชนิดนี้คือ spalling force แรงทั้งสองนี้จะช่วยกันอัดทำให้นิ่วเกิดรอยและการปริแตกมากขึ้น …

การสลายนิ่ว Read More »

การสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ (MUSCLE – STRETCHING EXERCISE)

“การยืดเอ็นและกล้ามเนื้อ” STRETCHING EXERCISE มาแล้วว่ามีความจำเป็นก่อนออกกำลังกายหรืออาจทำทุกวันโดยไม่ต้องทำก่อนออกกำลังกายก็ได้ เพราะถือว่าการยืดเอ็นและกล้ามเนื้อนั้นจะช่วยป้องกันไม่ให้ท่านมีอาการเคล็ดขัดยอกได้จากการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น ท่านที่ขับรถยนต์แล้วจำเป็นต้องเอื้อมไปหยิบของที่เบาะหลัง ก็อาจทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบได้บริเวณด้านหลังส่วนสะบัก บางคนต้องไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาก็จะเสียทั้งเวลาและเงินทองโดยไม่จำเป็น หรือบางท่านนั่งเก้าอี้เขียนหนังสือ เกิดทำของตกไปที่พื้นแล้วจำเป็นต้องก้มลงไปเก็บของแบบสุดเอื้อม ก็จะทำให้เกิดกล้ามเนื้อรอบๆ หัวไหล่เกิดการอักเสบขัดยอกขึ้นมาได้ ทำไมต้องสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ การใช้งานของกล้ามเนื้อในชีวิตประจำวันโดยเป็นคนที่กระฉับกระเฉงหรือ Active ก็อาจมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเพียงพอในระดับที่ต้องการได้แล้ว แต่ในบางคนที่ไม่ได้กระฉับกระเฉงหรือแอคตีฟ ผมขอแนะนำให้มีการออกกำลังกายเฉพาะเพื่อการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมากขึ้นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยไม่ควรทำติดต่อกัน ควรจะทำวันเว้นวัน หรือวันเว้น 2 วันก็ได้ วิทยาลัยเวชศาสตร์การกีฬาแห่งสหรัฐอเมริกา (AMERICAN COLLEGE OF SPORTS MEDICINE) ได้ให้คำแนะนำสำหรับคนที่สุขภาพปกติทั่วๆ ไปว่าควรบริหารการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่กล้ามเนื้อมัดใหญ่ โดยแต่ละส่วนควรทำการบริหารซ้ำ 8-12 ครั้งในแต่ละท่า เพื่อให้ผลในการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อนั้นๆ อย่างจริงจังวิธีง่ายๆ ในการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ หลักการ หากท่านต้องการให้กล้ามเนื้อมัดใดหรือกลุ่มใดมีความแข็งแรงมากขึ้น สิ่งที่ท่านต้องทำคือ ฝึกให้กล้ามเนื้อมัดนั้นๆ ทำงานให้หนักมากขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อมัดนั้นๆ ถูกฝึกให้ทำงานมากขึ้นบ่อยๆ เข้า หนักขึ้นบ่อยๆ กล้ามเนื้อเหล่านั้นก็จะมีความแข็งแรงมากขึ้น และถ้าใข้น้ำหนักที่มีขนาดหนักขึ้นเรื่อยๆ ในการบริหารกล้ามเนื้อเหล่านั้นก็มีโอกาสเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นได้ …

การสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ (MUSCLE – STRETCHING EXERCISE) Read More »

83

การให้ยาสลบ/ระงับความรู้สึก

ผู้ที่รับผิดชอบหรือมีความชำนาญในเรื่องให้ยาสลบ หรือยาระงับความรู้สึกเราเรียกกันว่า วิสัญญีแพทย์ หรือหมอดมยา หลายท่านอาจจะเคยได้ยิน หรือเคยมีประสบการณ์มาแล้ว เวลาคนไข้จะเข้ารับการผ่าตัดส่วนที่จะต้องถูกผ่าตัด เช่น มือ แขน ขา หรือท้อง จะต้องไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด ซึ่งพอจะแบ่งเป็นวิธีการต่างๆ ได้ดังนี้1. การผ่าตัดเฉพาะที่ ที่มีพื้นที่ที่จะผ่าตัดขนาดไม่ใหญ่มากนัก แพทย์ผู้ผ่าตัดอาจจะเป็นผู้รับผิดชอบในการฉีดยาระงับความรู้สึก หรือเรียกว่ายาชา เหมือนอย่างที่ท่านทั้งหลายเคยมีประสบการณ์ในการถูกเย็บแผล หรือในการถอนฟันมาแล้ว2. การให้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนสำหรับ การผ่าตัดที่แขน และขาโดยถ้าทำผ่าตัดที่มือหรือแขน วิสัญญีแพทย์ หรือหมอดมยา อาจใช้วิธีฉีดยาชาในที่บริเวณเหนือไหปลาร้าด้านเดียวกับที่ผ่าตัด ซึ่งจะเป็นตำแหน่งของเส้นประสาทที่มาเลี้ยงแขน หรือรับความรู้สึกจากแขน และมือ ทำให้ไม่ต้องใช้วิธีดมยาสลบ ก็สามารถทำให้การผ่าตัดดำเนินไปได้ เช่นเดียวกัน ส่วนการผ่าตัดที่เท้าขึ้นมาจนถึงต้นขา สะโพก ตลอดจนการผ่าตัดบริเวณเชิงกราน ทวารหนัก และการผ่าคลอดลูกทางหน้าท้อง อาจใช้วิธีฉีดยาชาเข้าไปบริเวณไขสันหลัง ระดับบั้นเอว ก็ทำให้การผ่าตัดดำเนินไปได้เช่นกัน3. การให้ยาสลบ จะทำให้คนไข้หมดความรู้สึกหรือหลับไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยอาศัยยาฉีดเข้าทางเส้นเลือด และยาที่ให้ผ่านท่อหายใจ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อยขณะผ่าตัด แพทย์สามารถผ่าตัดได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าโดยทั่วไปการให้ยาชาเฉพาะที่ หรือเฉพาะส่วนจะเป็นทางเลือกแรกมากกว่าการดมยาสลบ แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีใดขึ้นอยู่กับวิจารณญาน และการตัดสินใจของวิสัญญีแพทย์กับแพทย์ผู้ผ่าตัด โดยยึดถือความปลอดภัยต่อคนไข้เป็นหลัก ขั้นตอนในการวางยาสลบ 1. ระยะแรกการเตรียมผู้ป่วยก่อนวางยา …

การให้ยาสลบ/ระงับความรู้สึก Read More »

82

การใส่สายยาง (สำหรับให้อาหาร) เข้าทางรูจมูก

ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้เองตามปกติ เช่นเจ็บคอมากเวลากลืนอาหาร คออักเสบรุนแรง มีแผลร้อนในหลายๆ แผลเจ็บจนรับประทานอาหารไม่ได้ แพทย์มักจะให้น้ำเกลือทดแทนโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำแต่ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้เป็นระยะเวลาติดต่อกันนานหลายวัน เช่น การผ่าตัดมะเร็งกล่องเสียง การผ่าตัดกระดูกขากรรไกรและใบหน้าจากการได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงพบว่าการให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ นั้น ไม่เพียงพอในการทดแทนการรับประทานอาหารได้ และการให้น้ำเกลือเป็นเวลานานๆอาจก่อให้เกิดเส้นเลือดดำบริเวณนั้นๆ อักเสบ เกิดไข้ขึ้นมาได้แพทย์จึงเปลี่ยนมาให้อาหารทางสายยยางแทน โดยสายยางนั้นจะถูกสอดผ่านจากรูจมูกข้างใดข้างหนึ่งผ่านไปในโพรงจมูกวกลงไปในคอหอย, หลอดอาหาร จนกระทั่งปลายสายยางอยู่ในตำแหน่งของกระเพาะอาหาร และเนื่องจากสายยางนี้มักจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้เป็นเวลานาน เช่น เกิน 1 สัปดาห์ จึงมักมีคำถามว่า ใส่สายยางอยู่ในร่างกายนานๆจะเกิดข้อเสียอะไรหรือไม่ คำตอบคือ “อาจจะมีข้อเสียได้” เช่น สายยางลื่นหลุดออกจากตำแหน่งของ-กระเพาะอาหาร ทำให้ต้องใส่ใหม่, สายยางก่อให้เกิดจมูก และไซนัสอักเสบได้ เนื่องจากให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุจมูกข้างนั้นๆ ขึ้นมาได้, สายยางอาจทำให้เกิดคออักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบได้, ตัวสายยางอาจไประคายเคืองที่รูเปิดของท่อปรับความดันของหูชั้นกลาง (Eustachian tube) ซึ่งอยู่ด้านหลังของโพรงจมูก และก่อให้เกิดหูอื้อหรือก่อให้เกิดหูชั้นกลางอักเสบได้, รวมทั้งผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกว่ากลืนน้ำลายได้ไม่ปกติเนื่องจากสายยางนั้นค้ำอยู่ในหลอดอาหาร, อาหารบางส่วนอาจย้อนจากกระเพาะอาหารขึ้นมาในคอหอยได้เนื่องจากสายยางคาอยู่ที่รูเปิดของกระเพาะอาหารกล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะอาหารจึงทำงานได้ไม่ดีเหมือนสภาวะปกติ หากผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้เป็นเวลานานวันขึ้นนั้นมักจะเกิดข้อเสียของสายยางนี้ขึ้นได้และอาจมีการสำลักอาหารจากอาหารที่ย้อนขึ้นมาจากกระเพาะแพทย์จะแนะนำให้เปลี่ยนวิธีการให้อาหารแก่ผู้ป่วยโดยเปลี่ยนจากสายยางในจมูกเป็น “การเจาะกระเพาะ” โดยสอดสายยางจากแผลบริเวณผิวหนังที่หน้าท้องเข้าไปยังกระเพาะโดยตรง แพทย์หญิง จิราวดี จัตุทะศรีหูคอจมูก13 บทความผู้ประพันธ์

81

การเอาชิ้นเนื้อจากเต้านมไปตรวจ

การเอาชิ้นเนื้อจากเต้านมไปตรวจในกรณีที่แพทย์ตรวจพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นที่เต้านม ซึ่งอาจเป็นไปได้ใน 3 กรณีดังนี้คือ 1.คลำก้อนได้อย่างชัดเจน2. คลำ ก้อนได้ไม่ชัดเจน แต่ตรวจพบได้จากการตรวจเอกซเย์เต้านม MammoGram หรือ3 อาจเป็นในกรณีที่คลำก้อนไม่ได้เลย แต่ใปรับการตรวจเอกซเรย์เต้านมตามระยะเวลา แล้วพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้วกับเต้านม3.กรณีแพทย์จะแนะนำให้ เอาชิ้นเนื้อจากก้อนที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นในเต้านมมาตรวจ ซึ่งจะเป็นวิธี เดียวเท่านั้นที่จะยืนยันได้ว่าก้อนเนื้อนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่ สำหรับการจะได้ชิ้นเนื้อมาตรวจอาจทำได้ 3 วิธีดังนี้ คือ 1. ใน ระหว่างทำการตรวจเอกซเรย์เต้านม ในบางสถาบันหรือในบางโรงพยาบาลจะสามารถทำการเจาะชิ้นเนื้อจากตำแหน่งก้อนที่ พบว่ามีความผิดปกติเอาไปตรวจได้เลย โดยอาศัยภาพเอกซเรย์ช่วยให้เกิดความแม่นยำว่า เจาะเนื้อออกจากตำแหน่งที่เป็นก้อนที่สงสัยจริง2. ในกรณีคลำก้อนได้ อาจใช้เข็มเจาะลงไปตรงตำแหน่งก้อนและดูดเอาชิ้นเนื้อหรือน้ำ จากดำแหน่งที่เป็นก้อนเอาไปตรวจ สำหรับวิธีนี้ถ้าก้อนไม่ใหญ่มาก ความแม่นยำอาจไม่ดีพอ3. ในกรณีที่พบความผิดปกติทั้งคลำได้หรือคลำไม่ ได้ แพทย์อาจจะแนะนำให้เอาชิ้นเนื้อไปตรวจโดยการผ่าตัดลงไปที่ก้อนนั้นๆ และส่งตรวจว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ก่อนผ่าตัดแพทย์อาจจะต้องอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าจะทำอะไร และถ้าหากพบสิ่งปิดปกติแล้วเอาชิ้นเนื้อไปตรวจทางกล้อง จุลทรรรศ์พบว่าเป็นมะเร็ง จะทำอะไรต่อไปในการผ่าตัดคราวเดียวกัน หรือจะรอไว้ก่อนเพื่อตัดสินใจ ภายหลัง ก็อาจจะกระทำได้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาสอบถามจากแพทย์ผู้รักษานะคะ ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

Scroll to Top