เสียงประหลาดยามราตรี
วันนี้ฝนตกหนักตั้งแต่เช้า สภาพห้องตอนเก้าโมงจึงมืดอย่างกับสองทุ่ม โชคดีที่ขนของลงจากท้ายรถเสร็จตั้งแต่ยังไม่เคารพธงชาติ คิดในแง่ดีอากาศเย็นๆถือเป็นฤกษ์ดีในการย้ายมาอยู่คอนโดวันแรก จะได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ว่าแล้วก็ออกไปหาอะไรกินดีกว่า หลังบิดกุญแจสองรอบเพื่อล็อคห้อง ห้องข้างๆก็เปิดประตูออกมาให้ได้โอกาสทักทายพอดี เพื่อนบ้าน(หรือเพื่อนคอนโด)เป็นชายวัยประมาณสามสิบกว่าๆ รูปร่างท้วมไม่ถึงกับอ้วน ดูแข็งแรงยกเว้นใบหน้าที่ดูอิดโรยไม่สดชื่น “สวัสดีครับพี่ ผมย้ายมาอยู่ใหม่วันนี้ ชื่อน้อยครับ” ผมกล่าวทัก “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก พี่ชื่อออฟ มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” พี่ออฟทักตอบด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรปนง่วงนอน เพื่อนบ้านดูอัธยาศัยดีประกอบกับคอนโดราคาค่อนข้างสูงแห่งนี้มีชื่อเสียงที่ดีมากด้านความปลอดภัย แม้ไฟตามทางเดินจะน้อยจนทำให้ดูมืดไปหน่อย แต่ผมก็คงอยู่คนเดียวได้อย่างสบายใจแน่นอน จนกระทั่งตอนกลางคืน ผมจึงได้รู้ว่า ผมคิดผิดซะแล้ว คืนที่หนึ่ง ผมเข้านอนตอนเที่ยงคืนเวลาเดิม ซึ่งห้องรอบๆเสียงเงียบไปราวสองชั่วโมงแล้ว แม้คอนโดนี้จะตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพ แต่ก็เข้ามาในซอยประมาณสามร้อยเมตร รอบๆก็มีบ้านเรือนตั้งอยู่ห่างกันไม่แออัด ทำให้เงียบราวอยู่ต่างจังหวัดที่ห่างไกล เสียงอะไรสักอย่างปลุกผมให้ตื่นจากความฝัน หันไปดูนาฬิกาบอกเวลาว่าตีสองครึ่ง เพิ่งจะหลับไปได้ไม่นานเอง ผมงัวเงียไปเข้าห้องน้ำจึงได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง เสียงเหมือนสัตว์ตัวใหญ่กำลังคำราม ดังอยู่ครั้งเดียวแล้วเงียบไป ใจผมเริ่มเต้นแรง มีคนบอกไว้ว่าย้ายที่อยู่ต้องไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อน เมื่อวานดันฝนตกจนลืมไปเลย หวังว่าเจ้าที่เจ้าทางท่านคงเข้าใจ ผมกลับเข้าห้องนอนมาเปิดไฟแล้วตั้งใจฟังอยู่สักพัก ก็ไม่ได้ยินอีก จึงสวดมนต์แล้วปิดไฟนอน รุ่งขึ้นผมตื่นแต่เช้ารีบไปไหว้ศาลพระภูมิก่อนโบกวินหน้าคอนโดไปทำงาน ก่อนก้าวขึ้นรถมอเตอร์ไซค์หันไปเห็นพี่ออฟข้างห้อง …