article_writer

11 2

โรคเอดส์

มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Acquired Immune Deficiency Syndrome มีชื่อโดยย่อว่า AIDS = เอดส์โรคเอดส์ คือ โรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่องจนไม่สามารถต่อสู้เชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ง่ายกว่าคนปกติขณะนี้โรคเอดส์กำลังระบาดในทวีปอเมริกา ยุโรป อาฟริกา แคนนาดา โรคนี้ได้ติดต่อมาถึงบางประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย โรคเอดส์เกิดจากอะไร โรคเอดส์เกิดจากเชื้อไวรัส มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Human Immunodeficiency Virus (HIV) โรคเอดส์เป็นกับใครบ้าง           โรคเอดส์ส่วนใหญ่ที่พบในประเทศไทย จากสถิติ โรคเอดส์มักพบในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย หรือชายหญิงที่เปลี่ยนคู่บ่อย ๆ ปัจจุบันพบว่าเกิดในพวกรักต่างเพศได้ โดยเฉพาะในเพศชายที่ชอบเที่ยวโสเภณี โรคเอดส์ติดต่อกันได้อย่างไร โรคเอดส์ติดต่อกันได้หลายทาง แต่ที่สำคัญ และพบบ่อย ได้แก่ การร่วมเพศกับผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือมีเชื้อโรคเอดส์ การรับถ่ายเลือดจากผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือมีเชื้อโรคเอดส์ การใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด หรือร่วมกับผู้ป่วยโรคเอดส์ จากแม่ที่ตั้งครรภ์ป่วยเป็นโรคเอดส์ ติดต่อไปถึงลูกที่อยู่ในครรภ์ โรค เอดส์ไม่ติดต่อโดยการเล่นด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน เรียนร่วมกัน …

โรคเอดส์ Read More »

10 2

โรคเหา

เหา เป็นแมลงที่ชอบกัดและดูดเลือดคน อาศัยอยู่บนศีรษะและอยู่ตามขนบริเวณลำตัว มีลักษณะตัวแบนคล้ายตัวเห็บ แต่มีขนาดเล็กกว่า มีสีดำ เหา 1 ตัวจะวางไข่ประมาณ 150 ฟอง มีสีขาวขุ่นอยู่ติดกับโคนผม ไข่เหาจะฟักเป็นตัวภายใน 7 – 10 วัน เด็กเป็นเหาจะมีอาการคันมากและเกาจนหนังศีรษะถลอก อักเสบ และเป็นแผลติดเชื้อได้ ทำให้เสียสมาธิในการเรียน วิธีป้องกันไม่ให้เป็นเหา ควรปฏิบัติตัวดังนี้ คือ สระผมให้สะอาดเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ไม่อยู่ใกล้คลุกคลีหรือใช้ของร่วมกัน ครูหรือผู้ปกครองควรตรวจเหาให้เด็กและสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แนะนำให้เพื่อนและคนในครอบครัวกำจัดเหาพร้อมกันด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเหาได้สำหรับการรักษาโรคเหาให้สระผมวันเว้นวัน ใช้หวีเสนียดสางเหาใส่กระดาษและเผาทำลาย ทำเช่นนี้ทุกวันประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ จะช่วยให้เหาหมดไปได้โดยไม่ต้องใช้ยากำจัดหรือใช้สมุนไพร เช่นยาฉุน ใบหรือเมล็ดน้อยหน่า ตำแล้วคั้นกับน้ำหรือน้ำมันชโลมผมให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้ 3 – 4 ชั่วโมง จึงสระผม หากใช้ยารักษาหิดเหาขององค์การเภสัชกรรมซึ่งมีลักษณะเป็นยาน้ำแขวนตะกอนสีขาวขุ่น ก็ควรใช้อย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลาก ดังนั้นถ้าเด็ก ๆ ไม่อยากเป็นโรคเหาซึ่งน่ารังเกียจต้องรักษาความสะอาดของร่างกาย และสระผมเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ …

โรคเหา Read More »

9 3

โรคเหงือกอักเสบ

โรคเหงือกอักเสบเป็นปฏิกิริยาที่ร่างกายตอบสนองต่อเชื้อโรคที่สะสมรอบๆ ตัวฟัน พบว่าเกือบทุกคนจะเป็นโรคเหงือกอักเสบ อาจมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป โดยปกติเหงือกจะทำหน้าที่ห่อหุ้ม และป้องกันอันตรายให้แก่กระดูกและฟัน โดยมีเอ็นยึดกับรากฟันเอาไว้ ขอบเหงือกที่บริเวณคอฟันจะมีลักษณะบาง ผิวเรียบ ไม่ยึดกับตัวฟัน ทำให้เกิดเป็นร่องเหงือกลึกประมาณ 2-4 มิลลิเมตร ส่วนของเหงือกที่อยู่ต่ำลงมาจะยึดกับกระดูกเบ้าฟัน ส่วนของเหงือกยึดนี้มีความแข็งแรงกว่าเหงือกที่อยู่บริเวณขอบเหงือกและถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีลักษณะขรุขระเล็กน้อย ไม่เรียบเหมือนขอบเหงือก            ประสิทธิภาพการทำหน้าที่ของฟันขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของตัวฟันและอวัยวะที่อยู่รอบๆ ซึ่งทำหน้าที่ยึดฟันและพยุงฟันให้คงอยู่ในขากรรไกร อวัยวะที่อยู่รอบๆ ตัวฟัน มีชื่อเรียกรวมกันว่าอวัยวะปริทันต์ ซึ่งประกอบด้วย เหงือก เอ็นยึดปริทันต์ เคลือบรากฟัน และกระดูกเบ้าฟัน imageถ้าสังเกตดูที่เหงือกของเราจะเห็นว่ามีสีชมพูและซีดแต่ถ้าเกิดโรคมีการอักเสบหรือมีการติดเชื้อจะมีสีแดง เรียบเป็นมันหรือเป็นสีม่วง คล้ำ ช้ำ เมื่อเหงือกมีการอักเสบและติดเชื้อจะมีหนองเกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณขอบเหงือก ถ้าลองกดดูจะเห็นว่ามีหนองไหลออกมา อย่างไรก็ตามในบางคนอาจจะมีเหงือกสีคล้ำได้เช่นคนผิวดำ คนที่สูบบุหรี่เป็นประจำนานๆ หรืออาจจะพบได้ในคนที่ทำงานสัมผัสกับสารเคมีเป็นประจำนานๆ สาเหตุ 1.เชื้อแบคทีเรีย โดยปกติในช่องปากของคนเราจะมีเชื้อแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมากประมาณ 200-300 ชนิด เชื้อที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคอักเสบมักเป็นชนิดผสม ประกอบด้วยเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส (Streptococcus mutans) เชื้อแบคทีเรียชนิด Treponema denticola และPorphyromonas gingivalis โดยที่ในน้ำลายของเรามีธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสอยู่ เมื่อมีการสะสมเป็นเวลานานเข้าก็จะกลายเป็นหินปูนในปาก ถ้าทำความสะอาดฟันและช่องปากไม่ดีพอแบคทีเรียในแผ่นคราบฟันจะไปยึดติดกับหินปูนเหล่านี้ และไปเกาะตามบริเวณขอบเหงือก ปล่อยสารพิษออกมาทำให้เหงือกอักเสบ2.คราบหินปูน หินปูนหรือบางทีเรียกว่าหินน้ำลาย …

โรคเหงือกอักเสบ Read More »

8 2

โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

พบ ประเทศไทยเป็นพาหะโรคธาลัสซียเมียมากถึงร้อยละ 30-40 ของประชากรหรือประมาณ 18-24 ล้านคน และมีผู้เป็นโรคประมาณร้อยละ 1 หรือประมาณ 6 แสนคนของประชากรทั้งหมด โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย เป็นโรคเลือดจางที่มีสาเหตุจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้มีการสร้างโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดผิดปกติ จึงทำให้เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นกว่าปกติ แตก และถูกทำลายง่าย ก่อให้เกิดอาการซีด และเลือดจางเรื้องรัง ผู้ที่มียีนธาลัสซีเมียทั้งที่เป็นโรค และเป็นพาหะของโรคสามารถถ่ายทอดความผิดปกติไปสู่ลูกหลานได้ โรคเลือดจางธาลัสซีเมียแบ่งได้เป็น 2 ชนิด เป็นพาหะ คือ ผู้ที่มียีนหรือสารพันธุกรรมผิดปกติที่ทำให้เป็นโรคธาลัสซีเมียแฝงอยู่ บุคคลเหล่านี้จะมีสุขภาพปกติเหมือนคนทั่วไป ไม่ถือว่าเป็นโรค และจะมีชีวิตยืนยาวเหมือนบุคคลอื่นๆ แต่สามารถถ่ายทอดยีนธาลัสซีเมียต่อไปให้ลูกได้ หากบุคคลเหล่านี้ไม่ได้รับข้อมูลของธาลัสซีเมียที่เพียงพอ ก็จะไม่ตระหนักถึงความสำคัญของโรค และไม่ได้เข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาความผิดปกติ และหากโชคไม่ดีมีคู่สมรสที่มียีนที่ผิดปกติเช่นเดียวกัน สามี – ภรรยาคู่นี้ก็จะสามารถถ่ายทอดยีนที่ผิดปกติร่วมกันไปสู่ลูกทำให้ลูกเป็นผู้ ป่วยโรคธาลัสซีเมียได้ ทั้งๆ ที่พ่อ และแม่ต่างก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเช่นเดียวกับคนปกติทั่วๆ ไป เป็นโรค คือ ผู้ที่ได้รับยีนของโรคเลือดจางธาลัสซีเมียพวกเดียวกันมาจากทั้งพ่อและแม่ จะแสดงอาการของโรค และสามารถถ่ายทอดความผิดปกติไปสู่ลูกหลานได้ ลักษณะของผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย           ผู้ป่วยจะมีลักษณะซีดโลหิตจาง โหนกแก้มสูง หน้าผากกว้าง ตาเหลือง ดั้งจมูกแฟบ ผิวหนังดำคล้ำ เพราะมีธาตุเหล็กมากในร่างกาย …

โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย Read More »

7 2

โรคเมลิออยโดสิส (Melioidosis)

เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียซึ่งไม่มีอาการจำเพาะ ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด หรือมีอาการรุนแรง เช่น พบเนื้อตาย แผล ฝีหนองที่ปอด ตับ หรือม้าม หรือพบการติดเชื้อในกระแสโลหิตอย่างรวดเร็ว โรคเมลิออยโดสิสเป็นโรคติดเชื้อที่เป็นปัญหาของหลายประเทศ รายงานว่าประเทศทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางเหนือของทวีปออสเตรเลีย เป็นบริเวณที่มีโรคชุกชุม และสามารถตรวจพบโรคนี้ได้บ้างในฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย นิวซีแลนด์ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โรคเมลิออยโดสิสเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei ระยะฟักตัวไม่แน่นอน อาจสั้นเพียง 2-3 วัน หรือยาวนานเป็นปี เชื้อแบคทีเรียนี้มีอยู่ในดินน้ำ สัตว์หลายชนิด เช่น โค กระบือ แพะ แกะ ม้า สุกร ลิง และสัตว์แทะ เป็นแหล่งแพร่โรค โรคนี้ติดต่อโดยการได้รับเชื้อเข้าไปทางบาดแผล หรือโดยการกิน และการหายใจ ผู้ป่วยอาจมีอาการและอาการแสดงอาการที่พบมีตั้งแต่อาการเล็กๆ น้อยๆ จนถึงขั้นรุนแรงมาก เช่น มีไข้ ปอดบวม พบมีการติดเชื้อในกระแสโลหิต และเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วมาก อาจมีอาการคล้ายไข้ไทฟอยด์ หรือวัณโรคถุงลมปอดโป่งพอง ฝีเรื้อรังหรือข้อกระดูกอักเสบเป็นต้น โรคนี้พบได้บ่อยในประเทศไทยโดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ …

โรคเมลิออยโดสิส (Melioidosis) Read More »

6 2

โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน เป็นกลุ่มโรคทางเมตะบอลิซึม ซึ่งก่อให้เกิดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงเป็นเวลานาน เป็นผลมาจากความผิดปกติในการหลั่งอินซูลินหรือความผิดปกติในการออกฤทธิ์ของอินซูลิน สาเหตุ ความผิดปกติทางพันธุกรรมของเซลล์ในตัวของตับอ่อน ความผิดปกติทางพันธุกรรม ของการออกฤทธิ์ของอินซูลิน โรคของตับอ่อน การทำลายตับอ่อน จากการอักเสบ การติดเชื้อ โรคต่อมไร้ท่อ ยาหรือสารเคมีบางอย่าง ที่มีผลทำให้การหลั่งอินซูลินลดลง โรคติดเชื้อ อาการ ดื่มน้ำมาก ปัสสาวะมาก น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสสาเหตุ ในรายที่เป็นไม่มากที่มีระดับน้ำตาลในเลือด 126-200 mg% อาจไม่มีอาการผิดปกติได้อย่างชัดเจน เพราะอาจตรวจพบได้โดยบังเอิญจากการตรวจปัสสาวะ หรือจากการตรวจเช็คสุขภาพ ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ภาวะไตวายเรื้อรัง ตาบอด ความผิดปกติของเส้นประสาท การตัดเท้า ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง แผลที่เท้า ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเป็นโรคเบาหวาน ความอ้วน (BMI > 27 kg/m) มีบิดา มารดา พี่หรือน้อง เป็นโรคเบาหวาน เป็นโรคความดันโลหิตสูง (BP > 140 / 90 มม.ปรอท) มี HDL – cholesterol. 250 …

โรคเบาหวาน Read More »

98 1

โปรตีน : มีในอาหารประเภทใด

เราสามารถแบ่งโปรตีนตามแหล่งที่มาได้เป็น 2 พวก คือ โปรตีน จากสัตว์และโปรตีนจากพืช สำหรับการพิจารณาคุณค่าของโปรตีนทางโภชนาการ เราต้องดูทั้งปริมาณและคุณภาพควบคู่กันไป สำหรับโปรตีนจากสัตว์จัดเป็นกลุ่มได้ดังนี้ คือ 1. นมและผลิตภัณฑ์นม .ซึ่งคนเราทุกเพศทุกวัยควรรับประทานให้เป็นนิสัย เพราะมีคุณค่าสำหรับทุกเพศทุกวัย2. เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งถือเป็นแหล่งอาหารที่ให้โปรตีนได้ดี รวมทั้งเครื่องในสัตว์ด้วย สำหรับที่กำลังนิยมกันมากขึ้น ได้แก่ การรับประทานเนื้อปลา3. ไข่ ถือว่าเป็นแหล่งอาหารที่ให้โปรตีนอย่างดีเยี่ยม เช่นเดียวกับ น้ำนม และราคาถูกส่วนโปรตีนจากพืชจัดเป็นกลุ่มได้ดังนี้คือ4. ธัญญพืช ได้แก่ ข้าว ข้าวสาลี และข้าวโพด แต่จะมีโปรตีนน้อยกว่าจากไข่ นมและเนื้อสัตว์ทั้งด้านคุณภาพ และปริมาณ5. ถั่วเมล็ดแห้ง ได้แก่ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ และถั่วลิสง พวกนี้จะมีโปรตีนในจำนวนที่สูง น่าที่ส่งเสริมให้ประชาชนรับประทานกันมากขึ้น แต่คงต้องเสริมด้วยโปรตีนจากสัตว์บ้างบางส่วน ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

5 2

โรคเชื้อราที่เท้า

เท้าสำคัญกว่าที่คุณคิด           เท้าเป็นอวัยวะต่ำสุดของร่างกาย คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเท้ามากนัก ทั้งที่จริงแล้วเท้ามีหน้าที่สำคัญหลายประการ เช่น เวลาที่คุณยืนเท้าต้องทำหน้าที่รองรับน้ำหนักตัว สร้างความสมดุลย์ทั้งในขณะยืน เดินและวิ่ง เป็นต้น เท้ายังมีหน้าที่อื่นอีกมากมาย แต่เพียงแค่นี้คุณก็คงพอจะเห็นแล้ว่า เท้าของคุณสำคัญกว่าที่คุณคิด และเมื่อเกิดความผิดปกติกับเท้าคุณ อาจบั่นทอนความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมประจำวันของคุณตัวอย่างง่าย ๆ คุณรักษาความสะอาด ผิวหนังที่ฝ่าเท้า และง่ามเท้าของคุณดีหรือยัง ถ้าหมักหมมไว้ไม่ดูแล เชื้อราจะก่อโรคขึ้นง่าย ๆ โรคฮ่องกงฟุตหนึ่งในโรคเชื้อราที่พบได้บ่อย           โรคฮ่องกงฟุตเป็นโรคเชื้อราที่เท้า เกิดจากเชื้อกลากเดอร์มาโตไฟต์ เริ่มต้นโรคจะมีอาการคันที่ผิวหนังของง่ามนิ้วเท้า หรือฝ่าเท้าที่ง่ามนิ้วเท้าระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนาง จะพบผิวหนังมีลักษณะเปื่อยยุ่ย และปริออกจากกัน และมีการกระจายตัวไปยังบริเวณผิวหนังใต้นิ้วเท้าที่เป็นโรคในบางรายอาจพบตุ่มน้ำพองใสเป็นปื้น ที่ผิวหนังบริเวณฝ่าเท้า ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นแผ่นสะเก็ดแห้ง ๆ และหนาตัวขึ้น ในระยะเรื้อรัง คนที่เป็นโรคฮ่องกงฟุต อาจพบโรคเชื้อราที่เล็บเท้าร่วมด้วยก็ได้ คุณจะป้องกันการติดโรคฮ่องกงฟุตได้อย่างไร แหล่ง รวมเชื้อ ได้แก่ ห้องอาบน้ำรวม เช่น ของนักกีฬา หรือโรงทหาร ซึ่งเชื้อราจากผู้ที่เป็นโรคนี้จะหลุดออกมาอยู่ที่พื้นห้องน้ำ และติดต่อไปยังเท้าผู้อื่นได้ ห้องอาบน้ำรวมจึงควรใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดพื้นห้องน้ำอย่างสม่ำเสมอ ดูแลเท้า โดยเฉพาะง่ามนิ้วเท้าให้แห้งสะอาด ควรเปลี่ยนถุงเท้าทุกวัน และดูแลพื้นภายในรองเท้าให้แห้งอยู่เสมอ เช่น นำไปตากแดด …

โรคเชื้อราที่เท้า Read More »

4 2

โรคเครียด

อารมณ์เครียดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ 1. เกิดจากสภาพพื้นฐานทางจิตใจของคนแต่ละคน ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดความเครียดได้มากน้อยไม่เหมือนกัน เด็กบางคนเกิดมาพร้อมกับระบบประสาทที่อ่อนไหว ตื่นตัว และเครียดกังวลได้ง่าย บางคนจิตใจหนักแน่นไม่ค่อยหวั่นไหว แม้มีเหตุการณ์ที่น่ากลัวก็ไม่เกิดปฏิกิริยามาก 2. การถูกเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กจนถึงวัยรุ่น ถ้ามีเหตุการณ์ที่ทำให้เด็กเกิดความกลัว หวาดหวั่น เกิดความไม่มั่นคงในอารมณ์ ก็จะฝังใจทำให้เกิดความเครียดเมื่อโตขึ้นได้ง่าย 3. การคิดที่ไม่ดี คิดในแง่ร้าย คิดกังวลล่วงหน้ามากเกินไป ถ้าถูกฝึกให้คิดเช่นนี้มากเกินไปจะติดเป็นนิสัยทำให้เกิดอารมณ์เครียดได้ง่าย 4. การดำเนินชีวิตที่แข่งขัน เร่งรีบ ต่อสู้กันมากเกินไป ขาดการพักผ่อน ทำให้ร่างกายและจิตใจเกิดความเครียดสาเหตุต่างๆ เหล่านี้ ล้วนทำให้เกิดโรคเครียดได้ทั้งสิ้ อาการ           โรคเครียดไม่ใช่โรคจิตหรือโรคประสาท แต่เป็นโรคทางกายซึ่งเป็นผลจากความเครียด ความเครียดเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น การทำงาน การเรียน เหตุการณ์ในครอบครัวหรือลักษณะการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ แข่งขัน ต่อสู้ ทำให้เกิดความเครียดได้ทั้งสิ้น           คนปกติมีกลไกการปรับตัวเพื่อเอาชนะความเครียดได้ แต่คนบางคนมีความไวต่อความเครียดสูง คนบางคนชอบดำเนินชีวิตซึ่งทำให้เกิดความเครียด หรือคนบางคนมีวิธีคิดไม่ดี ทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย           เมื่อจิตใจเครียด ระบบประสาทอัตโนมัติจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากจนอาจทำงานเรรวน ทำให้อวัยวะภายในร่างกายซึ่งถูกควบคุมโดยประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติไปด้วย เช่น มีการหลั่งกรดออกมาในกระเพาะอาหารมากเกินไป ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร กลายเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร …

โรคเครียด Read More »

3 2

โรคเครียด : (อาการ)

โรคเครียดไม่ใช่โรคจิตหรือโรคประสาท แต่เป็นโรคทางกายซึ่งเป็นผลจากความเครียด ความเครียดเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น การทำงาน การเรียน เหตุการณ์ในครอบครัวหรือลักษณะการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ แข่งขัน ต่อสู้ ทำให้เกิดความเครียดได้ทั้งสิ้น           คนปกติมีกลไกการปรับตัวเพื่อเอาชนะความเครียดได้ แต่คนบางคนมีความไวต่อความเครียดสูง คนบางคนชอบดำเนินชีวิตซึ่งทำให้เกิดความเครียด หรือคนบางคนมีวิธีคิดไม่ดี ทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย           เมื่อจิตใจเครียด ระบบประสาทอัตโนมัติจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากจนอาจทำงานเรรวน ทำให้อวัยวะภายในร่างกายซึ่งถูกควบคุมโดยประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติไปด้วย เช่น มีการหลั่งกรดออกมาในกระเพาะอาหารมากเกินไป ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร กลายเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นผลจากความเครียด           ความเครียดยังอาจทำให้เกิดโรคทางกายได้อีกหลายระบบ เช่น โรคหัวใจ, โรคความดันโลหิตสูง, โรคหอบหืด, โรคผิวหนัง, โรคปวดศีรษะไมเกรน, โรคปวดหลังปวดคอ ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

2 2

โรคเก๊าท์เทียม (pseudogout)

โรคเก๊าต์เทียม เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากการคั่งและสะสมของผลึกเกลือชนิดที่เรียกว่าแคลเซียมไพโรฟอสเฟตไดไฮเดรต (calcium pyrophosphate dihydrateหรือ CPPD) เป็นโรคข้อจากผลึกเกลือที่พบได้บ่อยรองมาจากโรคเก๊าท์           การคั่งและสะสมของผลึกเกลือซีพีพีดีในข้อ สามารถทำให้ข้อเกิดการอักเสบเฉียบพลันเป็นพักๆ มีลักษณะอาการคล้ายโรคเก๊าท์จึงเรียกว่า โรคเก๊าท์เทียมแต่ผลึกตัวการที่ทำให้ข้อเกิดการอักเสบเป็นคนละชนิดกับโรคเก๊าท์           โรคเก๊าท์ที่คนทั่วไปรู้จัก เกิดจากร่างกายมีการคั่งและสะสมของผลึกยูเรตหรือกรดยูริกข้อที่พบการอักเสบได้บ่อยคือ ข้อโคนหัวแม่เท้า ข้อโคนนิ้วเท้า ข้อเท้าเอ็นร้อยหวาย ข้อเข่า เป็นต้นส่วนข้อที่พบการอักเสบได้บ่อยในโรคเก๊าท์เทียมคือ ข้อเข่า ข้อมือ ข้อไหล่ข้อศอก ข้อเท้า และข้อนิ้วมือ เป็นต้นการอักเสบที่รุนแรงของโรคเก๊าต์เทียมมักเกิดที่ข้อเข่าทำให้เจ็บปวดจนอาจถึงขั้นเดินไม่ได้หลายวันหรือหลายสัปดาห์เพศชายและเพศหญิงมีโอกาสเป็นโรคเก๊าท์เทียมได้เท่าๆ กันโดยความเสี่ยงของการเกิดโรคเพิ่มขึ้นตามอายุผลึกแคลเซียมไพโรฟอสเฟตไดไฮเดรตพบได้ร้อยละ 3 ในคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไปยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งพบผลึกนี้มากขึ้น และพบได้ถึงประมาณร้อยละ 50 ของคนที่อายุตั้งแต่ 90 ปีขึ้นไปแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่มีผลึกนี้สะสมอยู่ในข้อ จะเกิดอาการข้ออักเสบ สาเหตุของโรค เกิดจากการสะสมผลึกเกลือซีพีพีดี เนื่องจากมีไพโรฟอสเฟตอนินทรีย์เพิ่มมากขึ้นในกระดูกอ่อนผิวข้อ โดยสารไพโรฟอสเฟตอนินทรีย์ถูกสร้างเพิ่มขึ้นจากกระดูกอ่อนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการตกผลึกเกลือซีพีพีดี โรคเก๊าท์เทียมมีปัจจัยทางพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ที่มีความผิดปกติทางระบบต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึ่มบางอย่าง เช่นเป็นโรคไทรอยด์ต่ำ โรคฮอร์โมนพาราไทรอยด์สูง โรคที่มีธาตุเหล็กคั่งในตัวมากและสภาวะโรคต่างๆ ที่ทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดสูงก็เป็นสาเหตุให้เกิดโรคเก๊าท์เทียมได้ การเกิดข้ออักเสบเฉียบพลันอาจเกิดหลังจากการผ่าตัดข้อ การผ่าตัดอย่างอื่น ตลอดจนการบาดเจ็บที่ข้อหรือมีการเจ็บป่วยทางร่างกายอย่างอื่นในผู้สูงอายุสภาวะเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดข้ออักเสบเฉียบพลันในผู้ป่วยที่มีผลึกแคลเซียมไพโรฟอสเฟตไดไฮเดรตสะสมไว้ในข้อ อาการของโรค ผู้ป่วยโรคเก๊าต์เทียมจะมีอาการแสดงต่างๆ กันออกไป เช่น · Type A อาการข้ออักเสบเฉียบพลันแบบเป็นๆ หายๆ เลียนแบบโรคเก๊าท์ · Type …

โรคเก๊าท์เทียม (pseudogout) Read More »

1 1

โรคเก๊าท์

โรคเก๊าท์ เป็น โรคข้ออักเสบที่รู้จักกันมานาน ถือได้ว่าเป็นโรคที่เก่าแก่ที่สุดโรคหนึ่งในประวัติศาสตร์ และก็ยังพบว่าเป็นปัญหาโรคข้อที่สำคัญในปัจจุบัน ซึ่งอุบัติการณ์ของโรคเก๊าท์ที่สูงขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากมาตรฐานความเป็นอยู่ อาหาร สภาวะทางโภชนาการที่ดีขึ้นในยุคปัจจุบัน           ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊าท์จะเป็นผู้ชายที่มีอายุเกิน 40 ปี แต่ก็อาจเกิดขึ้นในวัยใดก็ได้ และสำหรับผู้หญิงที่เป็นโรคเก๊าท์ มักจะปรากฏอาการหลังจากเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้ว โรคเก๊าท์พบได้ประมาณร้อยละ 5 ของ บรรดาโรคข้ออักเสบทั้งหมด ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่ามีผู้ป่วยโรคเก๊าท์ประมาณ 2.4 ล้านคน ทั่วโลกเฉลี่ยพบผู้ป่วยโรคเก๊าท์ 300 รายต่อประชากร 100,000 คน            ลักษณะของโรคเก๊าท์จะเป็นการอักเสบของข้อที่เกิดขึ้นเฉียบพลันทันทีทันใด อาการเป็นอยู่ประมาณ 5-10 วัน แล้วก็หายไป ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดเป็นโรคเรื้อรัง เกิดการอักเสบของข้อเป็นๆ หายๆ และโรคจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุของโรค โรคเก๊าท์เกิดจากการที่ระดับของกรดยูริกสูงในเลือด ซึ่ง เป็นผลมาจากการสะสมกรดยูริคในร่างกายจำนวนมาก โดยเฉลี่ยแล้วกรดยูริคจะตกผลึกเมื่อระดับของกรดยูริคในเลือดมากเกิน 6.8 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร การที่ร่างกายมีกรดยูริคสะสมมากกว่าปกติ เป็นระยะเวลานาน ก็จะไปตกตะกอนอยู่บริเวณรอบๆ ข้อ หรือภายในข้อ ทำให้เกิดการอักเสบขึ้น กรดยูริคเกิดจากการย่อยสลายสารพิวรีน ซึ่ง พบได้ในเนื้อสัตว์ ข้าวสาลี …

โรคเก๊าท์ Read More »

100

โภชนาการที่ดีช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง

มีงานวิจัยล่าสุดพบว่าคุณภาพของอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้น มีส่วนสำคัญต่อการชะลอความเสื่อมของสมอง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวทางหลอดเลือดหัวใจหรือสมอง การศึกษาดังกล่าวนั้น เป็นการศึกษาขนาดใหญ่ที่ทำใน 40 กว่าประเทศกระจายไปในทุกทวีปกว่า 700 ศูนย์วิจัย โดยมีผู้เข้าร่วมวิจัยกว่าสามหมื่นคน ผู้เข้าร่วมการศึกษาดังกล่าวนั้น มีอายุมากกว่า 55 ปี และมีประวัติโรคประจำตัวทางด้านหลอดเลือดของหัวใจหรือสมอง อย่างน้อยหนึ่งโรค เช่น หลอดเลือดหัวใจอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง และรวมถึงผู้ป่วยด้วยเบาหวาน ซึ่งผู้ป่วยที่มีประวัติร่วมของโรคเหล่านี้ มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความเสื่อมของสมองเมื่ออายุมากขึ้น           การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาประสิทธิภาพของยาลดความดันโลหิต ต่อผู้ที่ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมองอยู่แล้ว ผู้วิจัยได้ทำการเก็บข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของการรับประทานอาหาร ซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นไปที่อาหารของชาติใดชาติหนึ่ง ดังเช่นงานวิจัยอื่นๆที่เคยผ่านตากันมา เช่น อาหารเมดิเตอร์เรเนี่ยน หรืออาหารเอเชีย ที่มักมีการอ้างถึงจากงานวิจัยว่าเป็นอาหารสุขภาพ แต่เนื่องจากผู้ป่วยโรคเหล่านี้มีอยู่ทั่วโลก ในทางปฏิบัติจึงไม่สะดวกนัก หากจะเลือกรับประทานเมนูสุขภาพที่ไม่ใช่อาหารท้องถิ่นของตนเอง           งานวิจัยนี้จึงเก็บข้อมูลในลักษณะของ คุณภาพของอาหารมากกว่า โดยคำนึงถึงส่วนประกอบของอาหาร มากกว่าคำนึงถึงเมนูอาหาร โดยผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถาม เพื่อเก็บข้อมูลการรับประทานอาหารในแต่ละวัน ได้แก่ ชนิดของโปรตีนที่เลือกรับประทาน เช่น เนื้อสัตว์ ถั่ว สัดส่วนของเนื้อปลาต่อเนื้อแดง สัดส่วนของผัก ผลไม้ ในแต่ละวัน การรับประทานพวกธัญพืช การรับประทานของทอด ปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ …

โภชนาการที่ดีช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง Read More »

99 1

โพวิโดนไอโอดีน

เป็นยาใช้ภายนอกตัวเดียวในกลุ่มที่แนะนำทั้งหมด นอกเหนือจากแอลกอฮอล์ที่เป็นยาฆ่าเชื้อที่ดีที่สุดแล้ว โพวิโดนไอโอดีนเป็นยาฆ่าเชื้อตัวหนึ่งที่มีผลในการทลายเชื้อได้กว้างเป็นยาในกลุ่มเดียวกับทิงเจอร์ไอโอดีน มีผลในการรักษาไม่แตกต่างกัน แต่มีข้อดีคือไม่แสบสามารถที่จะใช้ป้ายบริเวณที่ต้องการฆ่าเชื้อได้ สามารถใช้กับแผลสดแม้ว่าจะมีรายงานว่าอาจทำให้แผลหายช้า แต่ผลไม่ชัดเจนนัก หรือใช้เกลื่อนฝี เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาตุ่มน้ำใส ๆ บริเวณฝ่าเท้า โดยเจาะแตกด้วยเข็มสะอาด และป้ายด้วยยาโพวิโดนไอโอดีน จะช่วยให้แห้งได้ไว และลดการแพร่กระจายได้ ข้อควรรู้ ยานี้อาจมีผลระคายเคือง และผู้ที่มีผิวอ่อนอาจไวต่อยานี้ สำหรับตุ่มน้ำใสที่เกิดขึ้นที่เท้า สิ่งสำคัญคือ การดูแลฝ่าเท้ามิให้อับชื้อ ควรเช็ดเท้าภายหลังการอาบน้ำ หรือเปียกชื้นให้แห้ง แต่หากเกิดขึ้นบ่อยควรปรึกษาแพทย์ ที่มา : แผ่นพับคณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์และข่าวสาร สภาเภสัชกรรม ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

โปรตีน : มีในอาหารประเภทใด

เราสามารถแบ่งโปรตีนตามแหล่งที่มาได้เป็น 2 พวก คือ โปรตีน จากสัตว์และโปรตีนจากพืช สำหรับการพิจารณาคุณค่าของโปรตีนทางโภชนาการ เราต้องดูทั้งปริมาณและคุณภาพควบคู่กันไป สำหรับโปรตีนจากสัตว์จัดเป็นกลุ่มได้ดังนี้ คือ 1. นมและผลิตภัณฑ์นม .ซึ่งคนเราทุกเพศทุกวัยควรรับประทานให้เป็นนิสัย เพราะมีคุณค่าสำหรับทุกเพศทุกวัย2. เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งถือเป็นแหล่งอาหารที่ให้โปรตีนได้ดี รวมทั้งเครื่องในสัตว์ด้วย สำหรับที่กำลังนิยมกันมากขึ้น ได้แก่ การรับประทานเนื้อปลา3. ไข่ ถือว่าเป็นแหล่งอาหารที่ให้โปรตีนอย่างดีเยี่ยม เช่นเดียวกับ น้ำนม และราคาถูกส่วนโปรตีนจากพืชจัดเป็นกลุ่มได้ดังนี้คือ4. ธัญญพืช ได้แก่ ข้าว ข้าวสาลี และข้าวโพด แต่จะมีโปรตีนน้อยกว่าจากไข่ นมและเนื้อสัตว์ทั้งด้านคุณภาพ และปริมาณ5. ถั่วเมล็ดแห้ง ได้แก่ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ และถั่วลิสง พวกนี้จะมีโปรตีนในจำนวนที่สูง น่าที่ส่งเสริมให้ประชาชนรับประทานกันมากขึ้น แต่คงต้องเสริมด้วยโปรตีนจากสัตว์บ้างบางส่วน ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

Scroll to Top