article_writer

25 3

โรคกลัวอ้วน (Anorexia Nervosa)

เป็นภาวะที่บุคคลปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเพื่อคงน้ำหนักไว้ในระดับปกติ โดยมีทัศนคติที่ผิดต่อรูปร่าง และน้ำหนักตัวผิดปกติ คนที่เป็นโรคนี้ จะเป็นคนที่กลัวอ้วน กลัวเอามากๆ เห็นน้ำหนักตัวเองเป็นศัตรู ปฏิเสธอาหารอย่างมากจนผ่ายผอม ในสังคมปัจจุบันสนใจน้ำหนักตัว ไม่ต้องการอ้วน ไม่ต้องการหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน คาดว่ามีผู้ป่วยโรคกลัวอ้วนเสียจนผอมเกินไปราวร้อยละ 0.5-1.8 ของประชากร มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นราว 5-10 รายต่อประชากร 1 แสนคน พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า ในผู้ป่วยทั้งหมดจะเป็นผู้ชาย ไม่เกินร้อยละ 5-10 อาการของโรคมักเริ่มตอนวัยรุ่น โดยเฉลี่ยจะเริ่มเป็นเมื่ออายุ 17 ปี มีบ้างที่เป็นตอนเรียนมัธยมต้น หรือตอนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พบมากในประเทศอุตสาหกรรม หรือประเทศที่เจริญแล้ว ประเทศด้อยพัฒนาจะพบน้อยกว่า สาเหตุ ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม ผู้ป่วยมักเป็นวัยรุ่นที่เป็น เด็กดี เด็กตัวอย่าง ของครอบครัว มีบุคลิกภาพที่สมบูรณ์แบบ ย้ำคิดย้ำทำ ขาดทักษะในการใช้ชีวิตในสังคม มีความเป็นตัวของตัวเอง มีปัญหาความขัดแย้งในจิตใจเรื่องความเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกไม่มีค่า มักทำตามความคาดหวังของผู้อื่นเพื่อให้ผู้อื่นยอมรับเกิดจากการมองภาพตนเองบิดเบือน มองเห็นสัดส่วนร่างกายอ้วนไป ทั้งๆ ที่ไม่ได้อ้วน มักปฏิเสธว่าไม่หิว ไม่ป่วย บอกว่าสบายดี มักแยกแยะความหิวไม่ได้ บางรายพบปัจจัยที่เกี่ยวกับครอบครัว ถูกเลี้ยงดูแบบใกล้ชิด …

โรคกลัวอ้วน (Anorexia Nervosa) Read More »

24 2

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis)

พบมากกว่าร้อยละ 70 ของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ พบบ่อยในเพศหญิงในช่วงวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์ สาเหตุ ที่โรคนี้พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้น และอยู่ใกล้ทวารหนักซึ่งเป็นแหล่งที่มีเชื้อโรคมาก เชื้อโรคจึงเข้าทางท่อปัสสาวะของผู้หญิงได้ง่ายกว่าผู้ชาย จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่เกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะร้อยละ 70 จะกลับเป็นซ้ำอีกภายใน 6 เดือน            ผู้หญิงแทบทุกคนมีโอกาสเป็นโรคนี้ ตั้งแต่ วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ พบมากในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ หรือผู้หญิงที่ชอบอั้นปัสสาวะนานๆ ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้น้อย ถ้าพบมักมีความผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ต่อมลูกหมากโตหรือมีก้อนเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ หรือมีความผิดปกติทางโครงสร้างของทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ ยังอาจพบเป็นโรคแทรกซ้อนของผู้ป่วยเบาหวาน นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต หรือพบภายหลังการสวนปัสสาวะ            ส่วนใหญ่โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดจากการกลั้นปัสสาวะมากไป รับประทานน้ำไม่พอเพียง การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เป็น ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่สำคัญที่สุด ในผู้ป่วยบางรายอาจพบว่าเป็นบ่อยๆ เนื่องจากมีความผิดปกติทางกายวิภาคของของกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ หรืออาจพบว่าเป็นโรคนิ่วร่วมด้วย           ในสตรีวัยเจริญพันธุ์ พบ ว่ามีอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้บ่อยภายหลังจากการมีเพศสัมพันธ์โดย เฉพาะในช่วงระยะหลังการแต่งงานใหม่ๆ อาจเกิดการฟกช้ำจากการร่วมเพศ แล้วทำให้มีอาการอักเสบของท่อปัสสาวะ เชื้อแบคทีเรียหลุดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ง่าย เกิดการอักเสบติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะขึ้น เรียกภาวะดังกล่าวว่า Honeymoon Cystitis           อาการปัสสาวะบ่อย …

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) Read More »

23 2

โรคไตวาย

โรคไตวาย คือ ภาวะที่ไตทำงานผิดปกติ ปกติไตจะทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียออกทางปัสสาวะ ดังนั้น ภาวะไตวายก็คือ ภาวะที่ไตจะไม่สามารถขับของเสียรวมทั้งเกลือแร่ต่างๆ ออกมาทางปัสสาวะได้ ของเสียเหล่านั้นก็จะคั่งค้างอยู่ในกระแสเลือด ไตเป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกาย มีสองข้าง ลักษณะเป็นรูปถั่ว ขนาด ในผู้ใหญ่ประมาณ 10-13 ซ.ม. ตำแหน่งอยู่ทางด้านหลังตรงบริเวณบั้นเอวทั้งสองข้าง ไตจะทำหน้าที่กรองเลือดที่มาเลี้ยงไตและนำของเสียและน้ำส่วนเกิน กรองและขับออกมาเป็นปัสสาวะ ไตเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักมากและไม่มีเวลาพักผ่อน โดยจะรับเลือดจากหัวใจในปริมาณถึงร้อยละ 20 หรือเท่ากับหนึ่งในห้าของเลือดที่บีบตัวออกจากหัวใจแต่ละครั้ง รวมปริมาณเลือดถึงประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 1,400 ลิตร และนำมากรองขับออกมาเป็นปัสสาวะประมาณวันละ 1-2 ลิตรเท่านั้น           ภาวะไตวายโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ไตวายเฉียบพลันและไตวายเรื้อรัง ไตวายเฉียบพลันเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงที่ไตน้อยลง เช่น คนไข้มีอาการความดันโลหิตต่ำอยู่ในภาวะช็อกนานๆ หรือคนไข้ที่เสียเลือดมากๆ แต่ภาวะไตวายเฉียบพลันสามารถรักษาให้ไตกลับมาทำงานปกติได้ ส่วนภาวะไตวายเรื้อรังนั้นเป็นโรคที่มีการทำลายของเนื้อไตอย่างช้าๆ อย่างต่อเนื่อง จนไตไม่สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ สาเหตุ           สาเหตุที่พบบ่อยในประเทศไทย คือ โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงโรค ดังกล่าวถ้าได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั้งสองโรคนี้ในระยะยาวจะส่งผลทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรังได้ ระดับน้ำตาลในเลือดมีผลต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน ยิ่งน้ำตาลในเลือดสูงมาก ยิ่งมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนได้มากและเกิดเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงและภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนให้เกิดโรคแทรกซ้อนทางไตในผู้ป่วยเบาหวาน ทำให้เกิดอาการเร็วขึ้นและรุนแรงมากขึ้น …

โรคไตวาย Read More »

22 2

โรคไตรกลีเซอร์ไรด์สูงในเลือด

โคเลสเตอรอลเป็นไขมัน ชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งได้รับมาจากอาหารที่มาจากสัตว์ อาหารที่มาจากพืชจะไม่มีโคเลสเตอรอล ส่วนร่างกายสร้างขึ้นเอง จากการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและ ไขมัน หากมีโคเลสเตอรอลปริมาณสูงในเลือด ซึ่งส่วนใหญ่ เกิดจาการกรับประทานอาหารที่มีโคเลสเตอรอล และไขมันอิ่มตัวมากเกินไป บางรายอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือจากโรคไต โรคตับ และโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษาจะมีผลทำให้เส้นเลือดแดงแข็ง ถ้าหากเกิดที่เส้นเลือดแดงของหัวใจ ก็จะทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตได้การตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีปริมาณโคเลสเตอรอลสูงกว่า 200 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตร หรือไม่ โดยการงดอาหารทุกชนิดก่อนเจาะเลือด 12 ชม. จะทำให้วินิจฉัยโรคนี้ได้ สำหรับคำแนะนำในการป้องกันและรักษาโรคคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง มีดังนี้ 1. การจำกัดอาหารประเภทไขมัน เพราะอาหารที่มีไขมันมาก จะมีโคเลสเตอรอลสูงด้วย2. รับประทานน้ำมันพืชที่มีกรดไลโนเลอิคอย่างเพียงพอ ซึ่งมีผลทำให้เพิ่มการขับถ่ายโคเลสเตอรอลออกจากร่างกาย3. รับประทานโคเลสเตอรอลให้น้อยลง ได้แก่ พวกเครื่องในสัตว์ โดยเฉพาะพวกสมอง หนังเป็ด หนังไก่ สำหรับไข่ซึ่งมีโคเลสเตอรอลอยู่ 250-300 กรัม ใน 1 ฟอง ยังคงรับประทานได้อาจจะวันเว้นวัน หรือถ้ากลัวมากอาจทานแต่ไข่ขาว เพราะไม่มีโคเลสเตอรอล ผู้สูงอายุบางคนไม่ยอมทานไข่ ปรากฏว่าอาหารที่รับประทานอยู่มีโปรตีนที่มีคุณภาพน้อยไม่เพียงพอ บางทีทำให้เกิดโรคขาดโปรตีน4. การออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยรักษาระดับของโคเลสเตอรอลในเลือดได้อีกวิธีหนึ่ง …

โรคไตรกลีเซอร์ไรด์สูงในเลือด Read More »

21 2

โรคไตในผู้ป่วย SLE

โรคไตในผู้ป่วย SLE มีความหลากหลายมาก ทั้งในด้านกลไกการเกิดโรค ลักษณะอาการและการดำเนินโรค รวมทั้งการตอบสนองต่อการรักษา โรคในเด็กและในผู้ใหญ่ ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ดังนั้น ผลการศึกษาในผู้ใหญ่จึงใช้ในเด็กได้เช่นกันอุบัติการการเกิดโรคไตในผู้ป่วย SLE ขึ้น อยู่กับเกณฑ์ที่ใช้การวินิจฉัยโรค ในกรณีที่ทำการตรวจพยาธิสภาพของไตในผู้ป่วย SLE ทุกรายจะพบอุบัติการสูงถึงร้อยละ 90 แต่ถ้าใช้เกณฑ์การวินิจฉัย โดยพบว่ามีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ หรือพบโปรตีนในปัสสาวะ จะพบว่ามีอุบัติการประมาณ ร้อยละ 50 – 70ผู้ป่วยบางรายมีความผิดปกติของไต แต่ไม่มีอาการ หรือตรวจไม่พบความผิดปกติของปัสสาวะและการทำงานของไตเลย สาเหตุของโรค 1.โรคลูปุส หรือ SLE เป็น โรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยชนิดหนึ่ง สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคยังไม่เป็นที่ทราบแน่นอน แต่พบว่าปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน หรือภูมิต้านทานของร่างกายได้ทำลายต่อเนื้อเยื่อภายในข้อ หรือในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย 2.กลไกที่ทำให้เกิดโรคที่ไต เนื่อง จากปฏิกิริยาทางอิมมูน ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างแอนติบอดี้ต่อต้านเนื้อเยื่อส่วนประกอบของ นิวเคลียสของเซลล์ และจับกับเป็นสารเชิงซ้อน ซึ่งเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดการอักเสบขึ้นที่ไต 3.กระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นสามารถตรวจพบได้จากการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยจะพบว่าสารเชิงซ้อนดังกล่าวกระตุ้นระบบคอมพลีเม้นท์ และชักนำให้เซลล์เม็ดเลือดที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบเข้ามารวมกันเป็นจำนวนมาก อาการของโรค           อาการของโรคจะแสดงออกมาในหลายๆ รูปแบบ เช่น อาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผื่นแดงหรือแผลตามใบหน้า แขน …

โรคไตในผู้ป่วย SLE Read More »

20 2

โรคไตเสื่อม

เขาว่ากันว่า “ข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว” คืออาหารจานโปรดอันดับหนึ่งของคนไทย แต่สิ่งที่น่าจะเป็นของโปรดยิ่งกว่าคงจะเป็น “น้ำปลาพริก” ถ้วยเล็กๆ ที่ไม่ว่าจะสั่งเมนูไหน อร่อยขึ้นชื่ออย่างไร ขอให้ฉันได้เติมน้ำปลาเพื่อรสชาติที่เข้มข้นไว้ก่อน รสเค็มเป็นรสชาติยอดนิยมคู่ชาติบ้านเมืองมาช้านาน จึงไม่น่าแปลกใจว่าขณะนี้คนไทยป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอยู่ในระยะสุดท้าย 2 แสนคน โดยมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 10,000 คนต่อปี           ไต เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการกรองของเสียที่อยู่ในเลือดจากทั่วร่างกาย ออกมาเป็นน้ำปัสสาวะ นอกจากไตจะมีหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกายแล้ว ไตยังทำหน้าที่สำคัญอื่นอีก ได้แก่ การควบคุมความดันโลหิต การควบคุมสมดุลของเกลือแร่และภาวะกรดด่างภายในร่างกาย ดังนั้นหากเราบริโภคอาหารที่มีรสเค็มมากเกินพอดี ปริมาณเกลือโซเดียมในเลือดจะเพิ่มภาระให้กับไตในการกรองของเสียมากขึ้น ทำให้ไตสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานไปจากเดิมเป็นระยะเวลามากกว่า 3 เดือน ภาวะนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ “โรคไตเรื้อรัง” นอกจากอาหารที่มีรสชาติเค็มแล้ว ยาแก้อักเสบ ลดปวดข้อ ยาไข้หวัดลดน้ำมูก ยาความดัน และ อาหารเสริมบางประเภทยังมีส่วนทำให้ไตเสื่อมก่อนเวลาอันควร ผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคไตเรื้อรังยังรวมไปถึง ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคไต และ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคลูปัส โรครูมาตอยด์ โรคเก๊าท์ เป็นต้น           สำหรับหลายคนการรับประทานคือการเติมความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ยิ่งในสมัยนี้ ข้อจำกัดเกี่ยวกับอาหารมีมากขึ้นทุกวันจนอาจทำให้เรารู้สึกได้ว่า ที่ผ่านมาเราต่างรับประทานอาหารอย่างผิดๆหรือไม่ มันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคนที่ต้องปรับเปลี่ยนนิสัยการรับประทานเพื่อสุขภาพ แต่การเปลี่ยนแปลงนี้นอกจากจะเป็นการรักษาสุขภาพแล้วยังเป็นการรักษาเงินในกระเป๋าอีกด้วย …

โรคไตเสื่อม Read More »

19 2

โรคไข้สมองอักเสบเจอี

โรคไข้สมองอักเสบเจอี โรคไข้สมองอักเสบอาจเกิดจากเชื้อไวรัสได้หลายชนิด แต่ที่พบในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเกิดจากเชื้อไวรัสเจอี Japanese encephalitis (JE) ทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อสมองทั่วๆ ไป หรือเฉพาะที่บางส่วน เนื่องจากเนื้อสมองอยู่ติดกับเยื่อหุ้มสมอง จึงอาจพบการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองร่วมกับการอักเสบของสมองด้วยได้ โรคไข้สมองอักเสบเจอี ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตและเป็นโรคที่รักษายาก ที่สำคัญเมื่อเป็นแล้วมีอัตราการตายสูง หากรอดชีวิตมักมีความพิการหรือผิดปกติทางสมองตามมา อัตราป่วยตายอยู่ระหว่างร้อยละ 20-30 ประมาณสองในสามของผู้รอดชีวิต จะมีความพิการเหลืออยู่ เชื้อไวรัสเจอีเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของโรคไข้สมองอักเสบในเอเชีย พบผู้ป่วยโรคนี้ประมาณปีละ 30,000-50,000 ราย โรคนี้เรียกว่า Japanese เนื่องจากสามารถแยกเชื้อได้จากผู้ป่วยในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2476 จากสมองของผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคไข้สมองอักเสบ ชื่อที่เรียกในระยะต้นคือ Japanese B encephalitis virus เพื่อบ่งว่าเป็นสาเหตุของไข้สมองอักเสบชนิด B ซึ่งระบาดในหน้าร้อน ส่วนไข้สมองอักเสบชนิด A ซึ่งระบาดตลอดปีในระยะหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มีชื่อเรียกว่า Von Economo’s encephalitis          โรคไข้สมองอักเสบเจอีพบแพร่กระจายทั่วไปในทวีปเอเชีย พบในหลายประเทศและมีการระบาดบ่อยครั้งในญี่ปุ่น เกาหลี จีน และไต้หวัน แต่ปัจจุบันประเทศดังกล่าวสามารถควบคุมโรคนี้ได้ ในประเทศไทยมีรายงานการระบาดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512 ที่จังหวัดเชียงใหม่ และระบาดเรื่อยมาทุกภาค บริเวณที่มีการระบาดชุกชุมมากที่สุดคือ …

โรคไข้สมองอักเสบเจอี Read More »

18 2

โรคไข้ปวดข้อยุงลาย

ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2552 มีรายงานพบว่าโรคไข้ปวดข้อยุงลายได้กระจายไปหลายอำเภอของจังหวัดภาคใต้ตอนล่างของไทย ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2552 มีรายงานพบว่าโรคไข้ปวดข้อยุงลายได้กระจายไปหลายอำเภอของจังหวัดภาคใต้ตอนล่างของไทย แต่ยังไม่มีรายงานว่ากระจายไปยังเขตอื่นๆ ทำให้เกิดความหวั่นเกรงว่าจะพบโรคนี้มากขึ้น จนถึงขั้นอาจเกิดการระบาดได้ ถ้าไม่มีการป้องกันควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ และถ้าเกิดการแพร่ระบาดขึ้นแล้ว ก็จะยากแก่การหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคไข้ปวดข้อยุงลายนี้ ไม่ให้ระบาดไปยังพื้นที่อื่นของประเทศไทย เนื่องจากยุงลายที่เป็นพาหะทั้ง 2 ชนิด คือยุงลายบ้านและยุงลายสวน มีชุกชุมอยู่ทั่วประเทศ           มาตรการที่สำคัญในขณะนี้ ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการลงพื้นที่ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และอาสาสมัครสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ เร่งให้ความรู้ประชาชนเพื่อรณรงค์ร่วมมือกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างเข้มข้นในช่วงหน้าแล้งนี้ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya disease) เป็นโรคที่ยังไม่มียาหรือวัคซีนป้องกันได้ พบว่าเกิดการกลับมาระบาดซ้ำในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของไทย โดยโรคดังกล่าวมียุงเป็นพาหะนำโรคเช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก แต่มักพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก เมื่อป่วยหากอาการรุนแรงผู้ป่วยจะนอนซม ปวดข้อจนเดินไม่ได้ สถานการณ์โรคในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของไทย 1.สถานการณ์โรคชิคุนกุนยาตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 พบผู้ป่วยในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จำนวน 5,534 …

โรคไข้ปวดข้อยุงลาย Read More »

17 1

โรคไขข้อพาลินโดรมิก (Palindromic Rheumatism)

โรคไขข้อพาลินโดรมิก (Palindromic Rheumatism)หรือเรียกย่อๆ ว่า PR เป็นโรคข้ออักเสบชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุโดยพบว่ามีข้ออักเสบเป็นๆ หายๆ แต่ละครั้งไม่เกิน 2 วันอาการข้ออักเสบอาจเป็นได้ทั้งข้อเล็ก และข้อใหญ่ครั้งแรกๆอาจเป็นเพียงข้อเดียว ข้อที่อักเสบมีอาการปวด บวม แดง ร้อนซึ่งเป็นลักษณะของการอักเสบ บางคนแนะนำให้สังเกตอาการเด่นของโรคนี้ดังนี้ “ข้ออักเสบ” “เป็นเร็วหายเร็ว” “น้อยข้อ” “เรื้อรังอย่างน้อย 2 ปี”โดยเฉลี่ยพบโรคไขข้อพาลินโดรมิกในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยแต่ก็พบได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวถึงวัยสูงอายุ ชายหญิงพบโรคนี้พอๆ กันเมื่อพิจารณาจากรากศัพท์ คำว่า palindromic มาจากภาษากรีก มีความหมายว่า “กลับมาอีกครั้งหนึ่ง” (to run back, to recur) บ่งบอกถึงลักษณะของโรคนี้ที่เป็นๆ หายๆ เกิดได้รวดเร็วและหายได้รวดเร็วเช่นกัน สลับช่วงปลอดอาการผู้ป่วยโรคไขข้อพาลินโดรมิกบางรายอาการเป็นๆ หายๆ ระยะเวลาไม่สม่ำเสมอส่วนมากเป็นข้อเดียว แต่อาจเป็นหลายข้อก็ได้ บางรายอาจมีอาการขึ้นๆ ลงๆมากบ้างน้อยบ้าง หรืออาการของโรคเป็นๆ หายๆ ในระยะเวลาที่สม่ำเสมอ           เมื่อติดตามผู้ป่วยโรคไขข้อพาลินโดรมิกไปเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งจะกลายไปเป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรังชนิดใดชนิดหนึ่งที่พบบ่อยคือจากโรคไขข้อพาลินโดรมิกกลายเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์โรคไขข้อพาลินโดรมิกอาจเปลี่ยนไปเป็นโรคข้ออักเสบอื่นๆ เช่นโรคลูปุสหรือเอสแอลอี โรคข้ออักเสบชนิด SNSA เป็นต้นแต่อีกส่วนหนึ่งก็จะยังคงปวดข้อเป็นๆหายๆ ต่อไปปัจจัยที่อาจทำให้โรคเปลี่ยนแปลงไปยังไม่ชัดเจนแต่ผู้ป่วยที่มีรูมาตอยด์แฟคเตอร์ในเลือดให้ผลบวกขณะวินิจฉัยมีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในอนาคตได้มากกว่าธรรมดา สาเหตุ …

โรคไขข้อพาลินโดรมิก (Palindromic Rheumatism) Read More »

37 1

โรคไข้เหลือง (yellow fever)

โรคไข้เหลือง (yellow fever)เป็นโรคติดเชื้อไวรัสเฉียบพลัน พบการระบาดในทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้ โรคนี้เป้นโรคเก่าแก่ที่รู้จักกันมานานกว่า 400 ปีแล้ว การติดเชื้อไวรัสก่อให้เกิดโรคที่มีความรุนแรงมากน้อยแตกต่างกัน ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงจะแยกไม่ออกจากโรคติดเชื้อชนิดอื่น ในรายที่รุนแรงจะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากภาวะตับวายและไตวาย อัตราตายจากโรคโดยรวมของผู้ป่วยในพื้นที่ที่มีโรคนี้เป็นโรคประจำถิ่นน้อยกว่าร้อยละ 5 อาการที่เป็นลักษณะชัดเจนจะมีไข้เฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดหัว ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อทั่วไป อ่อนเปลี้ยหมดเรี่ยวหมดแรง คลื่นไส้ และอาเจียน ชีพจรจะช้า และอ่อนไม่เป็นสัดส่วนกับอุณหภูมิที่ขึ้นสูง ผู้ป่วยจะมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองปานกลางในระยะแรก และมากขึ้นในระยะต่อมา ไข่ขาวในปัสสาวะ หรืออาการไม่มีน้ำปัสสาวะอาจจะเกิดขึ้นได้ เม็ดเลือดขาวขึ้นสูงตั้งแต่ระยะแรก และมากขึ้นอีกในวันที่ 5 ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นในระยะนี้ โรคอาจจะสงบอยู่หลายชั่วโมงหรือเป็นวัน หลายรายลุกลามเป็นระยะต่อไปโดยมีอาการเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกที่เหงือก อุจจาระ ตับ และไตล้มเหลว           ผู้ป่วยดีซ่านร้อยละ 20-50 มักจะเสียชีวิตในที่สุดโรคไข้เหลืองตามธรรมชาติอาจเกิดเป็นวงจรในป่าซึ่งประกอบด้วยยุงกับลิง และวงจรในเมืองซึ่งประกอบด้วยยุงกับมนุษย์ การแพร่โรคของวงจรในป่าจะจำกัดอยู่เฉพาะเขตร้อนแถบแอฟริกา และอเมริกาใต้ มีรายงานผู้ป่วย 200 – 300 รายต่อปี ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายที่มีอาชีพทำงานอยู่ในป่าหรือบริเวณชายป่าในโบลิเวีย บราซิล โคลัมเบีย เอกวาดอร์ และเปรู …

โรคไข้เหลือง (yellow fever) Read More »

16 2

โรคใหม่คล้ายเอดส์ ไม่ใช่โรคติดต่อ

วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2555 สำนักข่าวต่างประเทศซีเอ็นเอ็น (CNN) ได้รายงานข่าวพบโรคชนิดใหม่ในทวีปเอเชีย ซึ่งมีลักษณะอาการคล้ายโรคเอชไอวี หรือเอดส์ (HIV/AIDS) คือ ทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ติดเชื้อง่าย รายงานยังกล่าวอีกว่าโรคที่พบใหม่นี้ไม่ใช่โรคติดเชื้อ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสเอชไอวี ต่อมาเมื่อมีการเสนอข่าวนี้ในสื่อหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ของประเทศไทย ทำให้ผู้ที่ทราบข่าวนี้เกิดความไม่สบายใจ รวมถึงกังวลว่า อาการเจ็บป่วยของตนจะเข้าข่ายเป็นโรคใหม่นี้หรือไม่ อีกทั้งยังมีข้อสงสัยตามมาอีกมากมายว่า โรคนี้คืออะไร มีที่มาอย่างไร ติดต่อกันได้หรือไม่ และมีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพจึงขอเสนอรายละเอียดของโรคใหม่ดังกล่าวเพื่อคลายความกังวลกันครับ ที่มาของการค้นพบ           เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน แพทย์ได้สังเกตว่า มีผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งที่มีอาการแบบเดียวกันกับผู้ป่วยโรคเอดส์ คือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง แต่ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) และไม่พบว่ามีสาเหตุมาจากโรคเบาหวาน มะเร็ง หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องอื่นๆ ในประเทศไทยพบผู้ป่วยลักษณะเช่นนี้ประมาณ 100 รายที่ป่วยด้วยอาการเป็นๆหายๆ ไม่หายขาด ต่อมาในปีพ.ศ.2547 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้พบผู้ป่วยชาวเอเชียที่มีลักษณะอาการเช่นเดียวกัน ทำให้สถาบันวิจัยสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health หรือ NIH) แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาวิจัยร่วมกับประเทศไทย และประเทศไต้หวัน โดยรวบรวมอาสาสมัครผู้ป่วยจากทั้งสองประเทศได้ประมาณ 200 ราย …

โรคใหม่คล้ายเอดส์ ไม่ใช่โรคติดต่อ Read More »

15 2

โรคโปลิโอ (Polio)

โปลิโอ เกิดจากเชื้อไวรัสโปลิโอ เชื้อนี้จะทำให้เกิดการอักเสบของประสาทไขสันหลัง เป็นสาเหตุให้ขาพิการไปจนตลอดชีวิต ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการอัมพาตของกล้ามเนื้ออย่างถาวร เป็นผลให้พิการหรือเสียชีวิตได้ มักจะพบโรคนี้ในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ปัจจุบันพบได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีการให้วัคซีนป้องกันได้อย่างทั่วถึง           สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสโปลิโอ (poliovirus) ติดต่อโดยการกินหรือสูดเอาเชื้อเข้าไปในร่างกาย แล้วทำให้ประสาทไขสันหลังส่วนที่บังคับการทำงานของกล้ามเนื้อเสียไป ถ้าเป็นรุนแรงประสาทสมองจะเสียด้วย เชื้อไวรัสโปลิโอสามารถติดต่อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้ง่ายมาก โดยผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการจะขับถ่ายไวรัสโปลิโอปนออกมากับอุจจาระ แล้วไวรัสผ่านเข้าสู่ร่างกายผู้อื่นทางปาก โดยเชื้ออาจติดมากับมือ หรือปนเปื้อนกับอาหาร หรือน้ำดื่ม หากผู้ที่ได้รับเชื้อโปลิโอยังไม่มีภูมิคุ้มกัน โรคจะมีการติดเชื้อเกือบทุกราย แม้ว่าส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อโปลิโอจะไม่มีอาการ ก็สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้เช่นเดียวกับผู้ที่มีอาการ ผู้ติดเชื้อโปลิโอทั้งในรายที่มีอาการและไม่มีอาการจะสามารถถ่ายทอดเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ วิธีการแพร่เชื้อ            พบว่าติดต่อได้โดยตรงโดยการใกล้ชิดกับผู้ป่วย และสามารถติดต่อจากนมหรืออาหารที่ปนเปื้อนกับอุจจาระ ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสามารถติดต่อทางแมลง ขยะ หรือน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระ การติดต่อโดยการรับประทานเชื้อเข้าไปเป็นวิธีการติดต่อที่สำคัญในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี แต่ในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลที่ดีหรือในภาวะการระบาด มักพบการติดต่อจากสารคัดหลั่งบริเวณลำคอเป็นสำคัญ เชื้อไวรัสโปลิโอพบได้จำนวนมาก และมีชีวิตอยู่ในอุจจาระได้นานกว่าในสารคัดหลั่งบริเวณลำคอ หลังจากคนได้รับเชื้อจากการกิน ไวรัสโปลิโอจะไปเพิ่มจำนวนในทางเดินอาหาร และตามมาด้วยการมีเชื้อไวรัสในกระแสเลือด ซึ่งสามารถกระจายเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง และรบกวนการทำงานของเซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อต่างๆ เป็นผลทำให้เกิดภาวะอัมพาตของกล้ามเนื้อ ซึ่งมักพบในบริเวณส่วนล่างของร่างกาย เช่น ขาทั้งสองข้าง ระยะฟักตัวของเชื้อ           โดยปกติประมาณ 7-14 วันในรายที่มีอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อ แต่พบว่ามีรายงานตั้งแต่ 3-35 วัน ส่วนระยะติดต่อของโรคนั้น ยังไม่ทราบระยะเวลาการติดต่อที่แน่นอน …

โรคโปลิโอ (Polio) Read More »

14 2

โรคโคเลสเตอรอลสูงในเลือด

โคเลสเตอรอลเป็นไขมัน ชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งได้รับมาจากอาหารที่มาจากสัตว์ อาหารที่มาจากพืชจะไม่มีโคเลสเตอรอล ส่วนร่างกายสร้างขึ้นเอง จากการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและ ไขมันหากมีโคเลสเตอรอลปริมาณสูงในเลือด ซึ่งส่วนใหญ่ เกิดจาการกรับประทานอาหารที่มีโคเลสเตอรอล และไขมันอิ่มตัวมากเกินไป บางรายอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือจากโรคไต โรคตับ และโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษาจะมีผลทำให้เส้นเลือดแดงแข็ง ถ้าหากเกิดที่เส้นเลือดแดงของหัวใจ ก็จะทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตได้การตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีปริมาณโคเลสเตอรอลสูงกว่า 200 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตร หรือไม่ โดยการงดอาหารทุกชนิดก่อนเจาะเลือด 12 ชม. จะทำให้วินิจฉัยโรคนี้ได้ สำหรับคำแนะนำในการป้องกันและรักษาโรคคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง มีดังนี้ การจำกัดอาหารประเภทไขมัน เพราะอาหารที่มีไขมันมาก จะมีโคเลสเตอรอลสูงด้วย รับประทานน้ำมันพืชที่มีกรดไลโนเลอิคอย่างเพียงพอ ซึ่งมีผลทำให้เพิ่มการขับถ่ายโคเลสเตอรอลออกจากร่างกาย รับประทานโคเลสเตอรอลให้น้อยลง ได้แก่ พวกเครื่องในสัตว์ โดยเฉพาะพวกสมอง หนังเป็ด หนังไก่ สำหรับไข่ซึ่งมีโคเลสเตอรอลอยู่ 250-300 กรัม ใน 1 ฟอง ยังคงรับประทานได้อาจจะวันเว้นวัน หรือถ้ากลัวมากอาจทานแต่ไข่ขาว เพราะไม่มีโคเลสเตอรอล ผู้สูงอายุบางคนไม่ยอมทานไข่ ปรากฏว่าอาหารที่รับประทานอยู่มีโปรตีนที่มีคุณภาพน้อยไม่เพียงพอ บางทีทำให้เกิดโรคขาดโปรตีน การออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยรักษาระดับของโคเลสเตอรอลในเลือดได้อีกวิธีหนึ่ง ทั้งนี้จะต้องควบคู่ไปกับการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี การรับคำแนะนำและการรักษาจากแพทย์ ซึ่งบางรายต้องรับการรักษาด้วยยา …

โรคโคเลสเตอรอลสูงในเลือด Read More »

13 2

โรคแมเนีย (โรคคลั่ง)

โรคแมเนียเป็นโรคทางอารมณ์ชนิดหนึ่งซึ่งมีอาการเด่นทางอารมณ์ที่ตรงกันข้ามกับอารมณ์ซึมเศร้า อาการแมเนีย มีลักษณะอารมณ์ดี ร่าเริง แจ่มใสมากกว่าปกติ ผู้ป่วยจะรู้สึกตนเองมีความสามารถเกินความเป็นจริง มีความภูมิใจในตนเองสูงมาก พูดคุยโม้โอ้อวด พูดมากไม่หยุด พูดแบบไม่เหมาะสมไปตามความคิดที่ล่องลอยไปหลายๆ เรื่อง ความคิดจะแล่นไปรวดเร็ว สมาธิจะสั้นมาก ทำให้วอกแวก เปลี่ยนความสนใจได้ง่าย คิดอยากทำอะไรหลายอย่าง เคลื่อนไหวมาก ใช้เงินมาก แสดงออกทางเพศอย่างมากและไม่เหมาะสม กลางคืนไม่ยอมนอนเพราะไม่ง่วง และอยากทำอะไรอยู่ตลอดเวลา ในผู้ป่วยโรคแมเนียบางคน อาจมีอารมณ์หงุดหงิดโมโหง่าย ก้าวร้าวได้ง่าย เวลาถูกขัดใจได้เหมือนกัน           โรคแมเนีย เป็นโรคทางอารมณ์ที่รักษาได้ผลดีมากเช่นกัน ควรรีบพาผู้ป่วยมาพบจิตแพทย์โดยเร็วที่สุด การรักษาจะใช้ยาเป็นหลัก ยาจะช่วยให้ผู้ป่วยสงบภายใน 2-3 สัปดาห์ และเมื่อหายแล้วต้องรับประทานยาป้องกันต่อเนื่องไปอีก 6-12 เดือน จิตแพทย์จะจัดยาให้ และสั่งให้หยุดยาตามกำหนด ไม่ควรให้ผู้ป่วยหยุดยาเองเด็ดขาด ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

12 2

โรคเอดส์คืออะไร?

เอดส์ คือ โรคที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่อง หรือ เสื่อมไปเพราะถูกทำลายโดยเชื้อไวรัส ที่เรียกว่า เอชไอวี (HIV) หรือเชื้อเอดส์ เอดส์ เขียนใน ภาษาอังกฤษว่า A I D S ประกอบด้วยตัวย่อจากคำต่าง ๆ 4 คำนั่นคือ A มาจาก Acquired หมายถึงการเกิดขึ้นภายหลังไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิด I มาจาก Immune หมายถึง ภูมิคุ้มกัน D มาจาก Deficiency หมายถึง การขาดแคลน S มาจาก Syndrome หมายถึง กลุ่มอาการ           ดังนั้น โรคเอดส์ จึงหมายถึงกลุ่มอาการที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย ภายหลังจากที่ได้รับเชื้อไวรัสโรคเอดส์เข้าไป ภูมิคุ้มกันที่ว่าก็คือ เซลล์เม็ดเลือดขาวที่อยู่ในกระแสโลหิต ซึ่งปกติทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันดักจับทำลายเชื้อโรคร้ายที่เข้ามา แต่เมื่อใดที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัสเอดส์ เชื้อไวรัสชนิดนี้ก็จะเข้าไปทำลายเซลเม็ดเลือดขาว ทำให้ประสิทธิภาพในการเป็นภูมิคุ้มกันร่างกายเสียไป ไม่สามารถดักจับเชื้อโรคจากภายนอกที่ล่วงล้ำเข้ามาในร่างกายได้เหมือนเดิม เป็นผลให้เจ็บไข้ไม่สบายได้ง่ายจากโรคติดเชื้อต่าง ๆ อาทิ ท้องเสีย หวัด วัณโรค และโรคผิวหนังต่าง …

โรคเอดส์คืออะไร? Read More »

Scroll to Top