ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. มีความเป็นห่วงว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “คอลลาเจน” ที่จำหน่ายอยู่นั้นอาจโฆษณาเกินจริง ใช้แล้วไม่ขาวจริง
ระยะนี้มีบรรดาหญิงสาวจำนวนไม่น้อยที่ต้องการมีผิวขาวใส นิยมสรรหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “คอลลาเจน” มารับประทาน ซึ่งล่าสุดพบว่าผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มีจำหน่ายอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะตามสื่อออนไลน์ต่างๆ
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. มีความเป็นห่วงว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “คอลลาเจน” ที่จำหน่ายอยู่นั้นอาจโฆษณาเกินจริง ใช้แล้วไม่ขาวจริง และจากการสำรวจพบว่าผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ได้ขออนุญาต และหากรับประทานเข้าไปจำนวนมากจะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของไตจนอาจทำให้เกิดอาการไตวายได้
ทีมข่าวสายตรวจระวังภัย ได้รับการร้องเรียนจากหญิงสาวหลายรายว่า ได้หาซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “คอลลาเจน” มารับประทานเพราะหลงเชื่อคำโฆษณาที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตว่าผลิตภัณฑ์ชนิดนี้เมื่อรับประทานแล้วทำให้ผิวขาวใส เป็นธรรมชาติ โดยเห็นผลทันทีในระยะเวลาไม่นาน แต่ปรากฏว่าเมื่อหาซื้อมารับประทานแล้วกลับไม่ได้ขาวจริงอย่างที่อ้าง
“ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวเราหรือว่าเป็นที่ผลิตภัณฑ์ เพราะว่าบางคนเขากิน เขาก็บอกว่าได้ผล หรือว่าเขาอาจจะขาวแต่กำเนิดก็ไม่รู้ แต่สำหรับตัวเรามันไม่ได้ช่วยเรื่องขาวเลย ซื้อคอลลาเจนมารับประทานนานกว่าครึ่งปีแล้วยังไม่ได้ผล จึงเลิกรับประทาน เพราะรู้สึกว่าจะเสียเงินเปล่า” หญิงสาววัย 24 ปี หนึ่งในผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน ให้ข้อมูล
ทีมข่าวสายตรวจระวังภัย สอบถามไปยัง ดร.ทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ผู้อำนวยการสำนักอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ระบุว่า ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนที่โฆษณาอย่างกว้างขวางในเวลานี้ร้อยละ 90 ไม่ได้ขออนุญาตจาก อย. และมักโฆษณาเกินจริง ซึ่งหากรับประทานเข้าไปจำนวนมากอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค หากเกินขนาดจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตจนเกิดอาการไตวายได้
“มีบางรายรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวันละ 10-20 เม็ด ซึ่งอันตรายอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก ซึ่งอยากเตือนอย่าหลงเชื่อการโฆษณาขายตรงหรือการโฆษณาทางเว็บไซต์ เพราะกว่าร้อยละ 90 ไม่ได้ขออนุญาตจาก อย.” ดร.ทิพย์วรรณ กล่าว
ผู้อำนวยการสำนักอาหาร แนะนำว่า หากต้องการให้ผิวขาวใส ดูเป็นธรรมชาติ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเลือกรับประทานผักผลไม้วันละ 400 กรัม เพียงแค่นี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนเพียงพอ ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจำพวกนี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ทีมข่าวสายตรวจระวังภัย ลงพื้นที่สำรวจพบว่า นอกจากคอลลาเจนจะมีขายผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตแล้ว ที่ตลาดค้าส่งผลิตภัณฑ์เสริมความงามย่านดอนเมืองมีผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จำหน่ายอยู่อย่างแพร่หลาย ซึ่งแทบทั้งหมดไม่ได้ขออนุญาตจาก อย. ขณะที่ตำรวจมีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 จับกุมผู้ต้องหาได้ 522 คน ส่วนปี 2557 เพียง 5 เดือนแรก จับผู้ต้องหาได้แล้ว 152 คน
พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผบก.ปคบ. เปิดเผยว่า ที่ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมความงามชื่อดังย่านดอนเมือง มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบของ อย. จำหน่ายอยู่จำนวนมาก ซึ่งตำรวจมีการติดตามจับกุมอย่างสม่ำเสมอ หากผู้บริโภครายใดได้รับผลกระทบจากผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ หรือผลิตภัณฑ์อันตรายอื่นๆ สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
สายด่วน บก.ปคบ. 1135 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งทางเว็บไซต์ www.cppd.go.th
ขอบคุณข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส)