ตลอดเวลาที่ทำงาน ผมเห็นคนไข้ที่เดินเข้ามาที่แผนก longevity และสามารถแบ่งคนไข้ออกได้เป็นสองกลุ่มด้วยกัน
- กลุ่มหนึ่งแม้อายุ 60 ต้นๆ แต่ดูแก่หง่อมอย่างมาก ทั้งเดินหลังค่อม นั่งรถเข็น กินยาเป็นกำมือ
- ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งมีอายุ 80 กว่าแล้ว ยังแข็งแรงดี เดินหลังตรง พูดเสียงดังฟังชัด และยังทำกิจกรรมสนุกๆ อย่างไปเที่ยวต่างประเทศได้
แน่นอนครับไม่มีใครอยากแก่ แต่เราคงจะห้ามไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้คือควรวางแผนว่า เราจะแก่อย่างไรให้สุขภาพดี ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้อายุยืนก็คือ 3อ
อาหารดี
อาหารเป็นปัจจัยที่สำคัญ แต่สำหรับคนที่อยู่ในสังคมเมืองแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ โดยผู้สูงอายุทุกคนที่แข็งแรงมักตอบเหมือนกันว่าจะเป็นคนเลือกกินอาหารหรือไม่ก็ทำอาหารกินเอง เพราะปัจจุบันนี้โรคที่คนส่วนใหญ่เป็น มักเกินจากการกินทั้งนั้น ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า “อาหารเป็นยา” นั้นยังใช้ได้จริงจนถึงปัจจุบันนี้
ออกกำลังกาย
ร่างกายของคนเรานั้นถูกออกแบบมาให้ทำงาน ออกกำลังกาย ขยับเขยื้อนอยู่เสมอ ถ้าเมื่อไหร่เราหยุดขยับ ร่างกายจะค่อยๆ เสื่อมถอยลงทันที โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ กล้ามเนื้อจะลีบตัวลงอย่างรวดเร็วถ้าไม่ได้ใช้งาน ดังนั้น เราต้องออกกำลังกาย และที่สำคัญคือ ต้องออกกำลังกายตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่รอให้เกษียณก่อนแล้วค่อยคิด (เพราะถึงตอนนั้นหลายคนมักคิดไม่ออกและมักเขินอายที่ต้องออกไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ) ถ้าท่านผู้อ่านยังคิดไม่ออกว่าเล่นกีฬาอะไรดีถึงเวลาออกไปลองสำรวจได้แล้วละครับ
อารมณ์ดี
ผู้สูงอายุที่แข็งแรงมักมีอารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน ไม่คิดมาก เพราะความเครียดเป็นตัวก่อโรคที่สำคัญทำให้ระบบต่างๆ ของเรารวนไปหมด ถ้าวันไหนรู้สึกว่าอารมณ์ไม่ดี อาจลองฝืนยิ้มกันดูนะครับ (อ่านถึงตอนนี้อาจมีผู้อ่านหลายท่านลองยิ้มอยู่ใช่ไหมครับ)ผมเชื่อว่า 3อ นี้เป็นหลักการที่ทำได้ง่ายๆ ลองดูว่าชีวิตปัจจุบันนี้มีครบทั้งสามข้อหรือยังถ้ายังไม่ครบ รีบลงมือตั้งแต่วันนี้เลยครับ
นพ. คณพล ภูมิรัตนประพิณ
ชำนาญพิเศษ : อายุรศาสตร์
ผู้ประพันธ์